เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 30 ก.ค. ที่ ห้องประชุมชั้น 2 กองบังคับการปราบปราม (บก.ป) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบบผาสุวรรณ รองผบก.ป.พ.ต.อ.วีระศักดิ์ คล้ายทอง ผกก.4.บก.ปอศ. ร่วมแถลงผลการจับกุมอดีต ส.อ.เจษฎา หรือโบ้ท ศรีมหาสันติ หรือ กฤชนนท์ ณภานนนท์ อายุ 26 ปี ตามหมายจับศาลทหารกรุงเทพ ที่ 366/2565 ลงวันที่ 6 มิ.ย.65 ข้อหากู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน,ฉ้อโกง และฉ้อโกงประชาชน จับได้ที่หน้าบริเวณ เดอะทรี คอนโดมีเนียม ถนนพัฒนาการ แขวงและเขตสวนหลวง กทม.
พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า สำหรับผู้ต้องหารายนี้ ได้หลอกชักชวนเพื่อนที่ทำงาน ให้ร่วมกันลงทุนหุ้นกู้ของบริษัทไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป ซึ่งไม่เป็นความจริง โดยมีผู้เสียหาย 21 ราย เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับบก.ปอศ.เมื่อ 10 พ.คที่ผ่านมา รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 15 ล้านบาท นอกจากนี้ยังพบมีผู้เสียหายอีกจำนวนมากที่ถูกผู้ต้องหาหลอกลวงแต่ไม่ได้แจ้งความเนื่องจาก ผู้ต้องหาจะใช้วิธีหมุนเงินเอาเงินจากผู้เสียหายรายใหม่ไปใช้หนี้ให้กับผู้เสียหายที่ต้องการจะแจ้งความอีกด้วย
ผบช.ก.กล่าวต่อว่า นอกจากคดีหลอกลงทุน ที่ผู้เสียหานยได้แจ้วงความกับ บก.ปอศ แล้ว เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ยังได้มีบริษัทรถเช่าและบริษัทเต็นท์รถ จำนวน 3 บริษัทเข้าร้องทุกข์กับกองปราบปรามว่า ก่อนหน้านี้ ส.อ.เจษฎา ยังได้มาก่อเหตุเช่ารถหรู ราคาแพง โดยอ้างว่าจะนำไปให้ผู้บังคับบัญชาใช้งาน โดยขอเช่ารถหรูมีทั้ง ปอร์เช่ บีเอ็ม ดับเบิ้ล ยู และเบนซ์ ในราคาเช่าวันละ 1.2 -1.5 หมื่นบาทต่อวัน จากนั้นจะหาชื่อครอบครองรถและปลอมเอกสารต่างๆ เพื่อนำไปจำนำหรือขายต่อให้กับเต็นท์รถมือสองย่านนนทบุรี ได้เงินมาครั้งละหลายล้านบาท ทำอย่างนี้เรื่อยมา จนผู้ให้เช่าเริ่มสงสัยไม่ปล่อยรถให้เช่า ผู้ต้องหาจะหาเพื่อนหรือคนรู้จักให้ไปเช่ารถแทนแล้วนำไปขายอีก โดยให้เปอร์เซ็นกับผู้ที่ไปเช่ารถเป็นการตอบแทน รวมเช่ารถและนำไปขายทั้งหมด 12 คัน มูลค่าประมาณ 76 ล้านบาท นอกจากนี้ทราบว่าผู้ต้องหาได้ก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง ในหลายพื้นที่ มีรถหรูจำนวนมากที่ถูกหลอกเช่าไปจำนำและหลอกขายต่อให้เต็นท์รถยนต์มือสอง มูลค่าความเสียหายมากกว่า 100 ล้านบาท คาดว่ายังมีผู้เสียหายอีกหลายราย ที่อยู่ระหว่างเข้าแจ้งความดำเนินคดีตามท้องที่ต่างๆ
ผบช.ก.กล่าวต่ออีกว่า จากการตรวจสอบทราบอีกว่า ทุกครั้งที่ผู้ต้องหานำรถที่หลอกเช่าไปจำนำหรือขายนั้น มักจะนำภาพใบหน้าตัวเองตัดต่อลงข้อมูลบัตรประชาชนผู้อื่น เพื่อให้ตรงกับข้อมูลรถยนต์คันนั้นๆ แล้วจะนำไปขาย หรือจำนำ เมื่อได้เงินมาจะนำมาใช้จ่ายส่วนตัว บางครั้งจะนำมาชดใช้ให้กับเต็นท์รถต่างๆรวมทั้งผู้เสียหายที่ถูกหลอกร่วมลงทุน เป็นการหมุนเวียนเงินไปเรื่อย ๆ และกระทำในลักษณะนี้อย่างต่อเนื่อง หลังจากทราบเรื่องได้สั่งให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศชัน ผบก.ป. พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.2 บก.ป.พ.ต.ท.สุรเชษฐ์ เดชะพันธ์ รอง ผกก.3 บก.ป.ปฏิบัติราชการ กก.2 บก.ป. พ.ต.ต.หญิง กัญจิรา นรสาร สว.ฝอ.บก.ปปป. ปฏิบัติราชการ กก.2 บก.ป.นำกำลังสืบสวนจนสามารถตามจับกุมได้ดังกล่าว
สอบสวน ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ.ดำเนินคดีตามกฎหมาย ก่อนส่งตัวฝากขังที่ศาลทหาร จากการการตรวจสอบพบว่า ส.อ.เจษฎา ตำแหน่งพนักงานสลับสายหมวดสื่อสาร กองร้อยกองบังคับการ กรมทหารสื่อสารที่ 1 (กระทุ่มแบน) ที่ค่ายกำแพงเพชอัครโยธิน จ.สมุทรสาคร หลังจากก่อเหตุหลอกลวงเพื่อนทหารในค่ายเดียวกันจนถูกแจ้งความดำเนินคดีแล้ว ได้ถูกต่นสังกัดมีคำสั่งให้ออกจากราชการ ตรวจสอบบัญชีพบมีเงินหมุนเวียนเกือบ 200 ล้านบาท และยังพบมีหมายจับติดตัวอีก 2 หมาย เป็นหมายจับศาลอาญาพระโขนง ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน” หมายจับศาลแขวงเชียงใหม่ ข้อหา “ฉ้อโกงหลายครั้งที่ถูกจับกุมตัวดำเนินคดีจะหาทางเจรจาเคลียร์คดีกับผู้เสียหายจนรอดจากการถูกจับกุมดำเนินคดี
Advertisement