จากกรณีเจ้าหน้าที่สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย และตำรวจไต้หวัน ขอความร่วมมือมายังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เพื่อขอให้ติดตามจับกุมนายสันติ ศุภอภิรดีไพลิน อายุ 35 ปี ผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรม 2 สามีภรรยา รวมลูกแฝดในท้อง รวม 4 ศพ ทิ้งท้ายรถBMW ก่อนหลบหนีกลับมายังประเทศไทย ตามที่มีการนำเสนอไปก่อนหน้านี้
ล่าสุดเมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 14 มิ.ย. ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีดังกล่าวว่า พนักงานสอบสวนได้ขออำนาจศาลอาญาออกหมายจับนายสันติ ศุภอภิรดีไพลิน อายุ 35 ปี ผู้ก่อเหตุที่หลบหนีเข้ามาในประเทศไทย จนมีการอนุมัติออกหมายจับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในความผิดฐาน “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” เพราะถึงแม้ว่าจะเป็นการกระทำผิดนอกราชอาณาจักร แต่เนื่องจากผู้กระทำผิดเป็นคนไทย และหลบหนีกลับมาเข้ามาอยู่ในประเทศ รวมถึงพ่อแม่หรือลูกของผู้เสียชีวิตได้มีการแจ้งความร้องทุกข์ จึงสามารถดำเนินการตามกฎหมายไทยได้ปกติ ไม่จำเป็นต้องส่งตัวกลับไปดำเนินคดีที่ไต้หวัน ตามหลักข้อกฏหมายอาญา มาตรา 8 (ก) “ผู้ใดกระทำความผิดนอกราชอาณาจักร และ ผู้กระทำความผิดนั้นเป็นคนไทย และรัฐบาลแห่งประเทศที่ความผิดได้เกิดขึ้น หรือผู้เสียหายได้ร้องขอให้ลงโทษ ฯ”
พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า สำหรับการติดตามตัว เบื้องต้นได้สั่งการให้ กก.1 บก.ป. และ กก.4 บก.ป. บูรณาการกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแส พร้อมประสานหน่วยงานต่างๆเฝ้าระวังบริเวณพื้นที่ริมขอบชายแดนรอยต่อประเทศเพื่อนบ้าน เพราะเชื่อว่า ณ เวลานี้ ยังคงหลบซ่อนตัวอยู่ในประเทศ ส่วนมูลเหตุปมสังหาร หรือ จะมีผู้ก่อเหตุคนอื่นร่วมกระทำผิดด้วยหรือไม่นั้น ในส่วนนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจไต้หวันเป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่จากข้อมูลเบื้องต้นที่ได้รับการประสานจากทางการไต้หวันขณะนี้ผู้ก่อเหตุยังคงมีเพียงแค่ นายสันติ เพียงรายเดียว
Advertisement