เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 12 กรกฎาคม ที่ กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ตวิวัฒน์ คำชำนาญ ผบก.ปคม. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงผลการจับกุม น.ส.จันทรา (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาที่ 1418/2565 ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2565 ข้อหาค้าประเวณีเด็กอายุไม่ถึง 15 ปี,ร่วมกันกระทำชำเราเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี, ครอบครองสื่อลามกอนาจาร, เป็นธุระจัดหาเพื่อการอนาจาร และจับกุมนายชาคลีฟ (สงวนนามสกุล) อายุ 58 ปี และนายทศพล (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปีผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาที่ 1419-1920/2565 ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2565 ข้อหา ร่วมกระทำอนาจารเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี, ร่วมกันกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี และครอบครองสื่อลามกอนาจาร
พล.ต.ท.จิรภพ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากมีการนำเสนอข่าว แม่วัย 25 ปี นำลูกสาววัย 9 ขวบ ตระเวนขายบริการทางเพศ บนสื่อสังคมออนไลน์ กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) จึงเร่งรัดดำเนินการสืบสวนจนทราบว่าคลิปวิดีโอดังกล่าว เป็นคลิปวิดีโอการร่วมเพศระหว่าง ด.ญ.บี (นามสมมุติ) อายุ 9 ปี ที่ถูกถ่ายโดย น.ส.จันทรา ผู้เป็นมารดา โดยปัจจุบันพักอาศัยอยู่ด้วยกันที่บ้านพักแห่งหนึ่งใน จ.สระบุรี ต่อมาวันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา เวลา 20.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปคม ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.สระบุรี, เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดอนพุด, เจ้าหน้าที่กระทรงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) และเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวสระบุรี ได้ร่วมกันไปตรวจสอบบ้านพักหลังดังกล่าวเพื่อเชิญตัวมาซักถามเบื้องต้น
พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวอีกว่า โดย น.ส.จันทรา ให้การว่าเคยประกอบอาชีพขายบริการทางเพศมาก่อน แต่ต่อมาลูกค้าที่มาซื้อบริการเห็นภาพของ ด.ญ.บี ลูกสาวของตนในเฟซบุ๊ก จึงขอให้ตนเองถ่ายคลิปวิดีโอของ ด.ญ.บี ในลักษณะลามกอนาจาร ส่งขายให้ลูกค้าคนดังกล่าวหลายครั้ง จากนั้นลูกค้าคนดังกล่าวได้ชักชวนให้พา ด.ญ.บี มาขายบริการทางเพศ โดยระหว่างขายบริการทางเพศ ลูกค้ายังขอให้ตนถ่ายคลิปวิดีโอเก็บไว้ให้ นอกจากนี้ ตนเคยพาลูกสาวไปขายบริการทางเพศในลักษณะดังกล่าวมาแล้ว 5 ครั้ง ในพื้นที่กรุงเทพฯ และจังหวัดนครปฐม โดยมีลูกค้าประจำ 2 คน คือ นายชาครีฟ และนายทศพล โดยจะได้รับค่าตอบแทนจากการขายบริการทางเพศ ครั้งละประมาณ 2,000-5,000 บาท และได้รับค่าตอบแทนจากการขายคลิปวิดีโอ คลิปละ 100 – 500 บาท กระทั่งวันนี้ (12 กรกฎาคม) เจ้าหน้าที่ กก.2 บก.ปคม. จึงนำหมายจับศาลอาญา ดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาได้ดังกล่าว
พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวอีกว่า จากการสอบสวนพบว่า น.ส.จันทราอยู่ในวงการและมีพฤติกรรมขายคลิป ภาพอนาจารมาอย่างยาวนาน ส่วนที่กล่าวอ้างว่าหยุดถ่ายคลิปใหม่มานานแล้วไม่เป็นความจริง เพราะจากการสืบสวนพบว่ายังมีการถ่ายคลิป ภาพอนาจารจนถึงปัจจุบัน ส่วนลูกสาวนั้นได้นำมาถ่ายคลิปอนาจารตั้งแต่ปี 2564 โดย น.ส.จันทรานั้นไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง แต่จากการตรวจสอบบัญชี พบว่ามีเงินหมุนเวียนถึงหลักแสนบาทในระยะเวลา 2 ปี นอกจากนี้ยังไม่มีท่าทีสลดใจ หรือรู้สึกสำนึกผิดหรือเสียใจกับพฤติกรรมที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด เบื้องต้นจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปคม. ดำเนินคดีต่อไป
Advertisement