ปคบ.ทลายเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ลวงโลก สร้างข้อมูลเท็จหลอกขายผลิตภัณฑ์สุขภาพ

           เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 ก.ย. ที่ ห้องประชุมชั้น 2 อาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. พร้อมด้วย พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4 บก.ปคบ. พ.ต.ท.สุพจน์ พุ่มแหยม รอง ผกก.4 บก.ปคบ. ภญ.อรัญญา เทพพิทักษ์ ผู้อำนวยการศูนย์จัดการเรื่องร้องเรียนและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ ร่วมแถลงผลจับกุมเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์สร้างข้อมูลเท็จหลอกขายผลิตภัณฑ์สุขภาพ จำนวน 4 คน ประกอบด้วย นายมนัสศิริ (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี นายพิศิษฐ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี นายธิติพัทธ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี น.ส.อิสรีย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1616-1619 /2565 ตามลำดับ ลงวันที่ 15 ส.ค. 2565 ข้อหา “ร่วมกันโฆษณาเครื่องสำอางโดยใช้ข้อความที่เกินจริง, ร่วมกันทุจริตหรือหลอกลวง โดยการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ” พร้อมของกลาง คอมพิวเตอร์, โทรศัพท์มือถือ เอกสารต่างๆ รวมถึงผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพผิดกฎหมาย รวมมูลค่าประมาณ 24 ล้านบาท

           พ.ต.อ.เนติ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2565 ได้มีดีเจสาวชื่อดังเข้าร้องขอให้ช่วยตรวจสอบ หลังพบเพจเฟซบุ๊กชื่อ Center for the health of the nation นำรูปถ่ายไปใช้แอบอ้างโฆษณาขายผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนัก Efferin โดยที่ตัวเองไม่ได้มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับการกระทำดังกล่าว จึงจัดกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบก่อนพบว่า บริษัทของกลุ่มผู้ต้องหาเป็นผู้ดำเนินการโฆษณาและจัดจำหน่ายสินค้าดังกล่าว อีกทั้งยังพบว่าบริษัทดังกล่าวยังมีการโฆษณาโดยใช้ข้อความอันเป็นเท็จเพื่อหลอกลวงผู้บริโภค และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพอื่นที่ผิดกฎหมายอีกจำนวนหลายรายการ

              พ.ต.อ.เนติ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังพบว่าบริษัทดังกล่าวยังมีการตัดต่อรูปภาพบุคคลที่มีชื่อเสียง, แพทย์หรือสถานพยาบาลชื่อดัง มาใช้แอบอ้างโฆษณา อาทิ คุณกิตติ สิงหาปัด ในรายการข่าว 3 มิติ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือหลอกให้ผู้บริโภคหลงเชื่อ เมื่อมีเหยื่อสนใจติดต่อเข้ามา ผู้ร่วมขบวนการที่ทำหน้าที่ในส่วนฝ่ายขายของบริษัท ซึ่งทำงานในสักษณะCall Center ก็จะติดต่อกลับไปหาเพื่อบรรยายสรรพคุณเกินจริงโน้มน้าวให้ผู้ซื้อหลงเชื่อตัดสินใจซื้อสินค้าดังกล่าว ซึ่งกว่าที่เหยื่อจะรู้ตัวว่าสินค้าไม่ได้มีสรรพคุณตามที่โฆษณาก็สายไปเสียแล้ว อย่างไรก็ตามหลังพบความผิดเป็นที่แน่ชัด ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย จากนั้นจึงนำกำลังเข้าตรวจค้นโรงงานและแหล่งผลิต จำนวน 6 แห่ง ในหลายพื้นที่ จนสามารถจับกุม น.ส.อิสรีย์ และ นายพิศิษฐ์ พร้อมของกลางมูลค่า 24 ล้านบาท ก่อนจะตามจับกุมตัว นายมนัสศิริ และ นายธิติพัทธ์ ได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ขณะกำลังเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ

           ผกก.4 บก.ปคบ. กล่าวต่ออีกว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ให้การปฏิเสธ แต่ยอมรับว่า บริษัทประกอบกิจการเกี่ยวกับการจำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพในลักษณะ Call Center ผ่านทางช่องทางออนไลน์ จริง โดยมี นายธิติพัทธ์ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้น ทำหน้าที่บริหารจัดการดูแลบริษัท ส่วน น.ส.อิสรีย์ น้องสาวของนายธิติพัทธ์ จะทำหน้าที่ดูแลด้านการเงิน ส่วนการโฆษณาสินค้า ทางบริษัทได้ว่าจ้างบริษัทในประเทศเวียดนาม, สิงคโปร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นผู้ดำเนินการ
         “นอกจากนี้จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่า มีเงินหมุนเวียนกว่า 660 ล้านบาท เฉพาะเพียงช่วงระหว่างเดือน ม.ค.65 ถึง มิ.ย.65 มีรายได้จากการหลอกหลวงขายผลิตภัณฑ์กว่า 219 ล้านบาท มีการจ่ายเงินค่าโฆษณาไปยังต่างประเทศ รวมเป็นเงินจำนวน 188 ล้านบาท” พ.ต.อ.เนติ กล่าว

            ด้าน ภญ. อรัญญา กล่าวย้ำเตือนประชาชนว่า ขออย่าได้หลงเชื่อโฆษณาที่หลอกลวงเกินจริง หรือ ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีหลักฐาน หรือผลการสอบประสิทธิภาพทางวิทยาศาสตร์ของผลิตภัณฑ์สนับสนุน ขอให้พึงระลึกไว้เสมอว่า อาหารหรือเครื่องสำอางไม่มีสรรพคุณรักษาโรคได้ ฉะนั้นก่อนำสั่งซื้อทุกครั้ง ควรไตร่ตรองให้รอบคอบ
Advertisement