บุกรวบคาบ้าน! สองแอดมินลวงเด็กชายถ่ายคลิปโป๊ โพสต์ทวิตเตอร์เรียกยอดสมาชิก

          เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 10 ต.ค. พล.ต.อ.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม. พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รอง ผบก.ปคม. พ.ต.อ.ทนงศักดิ์ ปันไชย ผกก.1 บก.ปคม. นำกำลังเข้าจับกุมตัว นายวราวุธ นาคแสง อายุ 24 ปี นายสุธีวัฒน์ นิลเจียม อายุ 28 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2178- 2179/2565 ตามลำดับ ลงวันที่ 10 ต.ค. 2565 ข้อหา “ สมคบตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ โดยแสวงหาประโยชน์จากการผลิตหรือเผยแพร่วัตถุสื่อลามกเด็กเพื่อประสงค์ทางการค้า ,ผลิต หรือ นำเข้า ส่งออกนอกราชอาณาจักร ,เผยแพร่สื่อลามกอนาจารเด็ก,ขู่เข็ญชักจูงให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือ น่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด” ได้ที่ บ้านเลขที่ 179 ซอยเพชรเกษม 48 แยก 22 แขวงบางแหวก เขตภาษีเจริญ กทม.

            สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ปคม. ตรวจสอบพบว่ามีการเปิดกลุ่มลับ แอคเคาท์ทวิตเตอร์ หรือ เว็บไซต์ ชื่อว่า เดอะวินเนอร์ ขึ้นเพื่อเผยแพร่คลิปลามกอนาจารของเด็กและเยาวชนชายอายุประมาณ 15-18 ปี เพื่อแสวงหารายได้จากการเก็บค่าสมัครสมาชิกเข้ากลุ่ม ในราคา 350 บาท ต่อคน โดยปัจจุบันกลุ่มดังกล่าวมีสมาชิกจำนวนกว่า 800 คน นอกจากนี้จากการสืบสวนยังทราบว่าเด็กที่ปรากฎอยู่ในคลิปส่วนใหญ่มักถูกหลอกลวงด้วยการให้เงินเป็นค่าตอบแทนเพื่อแลกกับการถ่ายภาพโชว์เรือนร่าง โดยที่เด็กที่ตกเป็นเหยื่อส่วนใหญ่ไม่ทราบเลยว่าคลิปของตนเองจะถูกนำไปเผยแพร่ตามกลุ่มลับต่างๆ เจ้าหน้าที่จึงจัดกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแส และตรวจสอบเส้นทางการเงินต่างๆ จนกระทั่งพบว่ากลุ่มดังกล่าวมี นายสุธีวัฒน์ ทำหน้าที่เป็นแอดมินคอยควบคุมดูแลกลุ่ม และมีนายวราวุธ รับโอนเงินหรือคอยบริหารจัดการเรื่องเงินค่าสมัครสมาชิกและค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการจัดทำคลิปขึ้นมา จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ ก่อนนำมาสู่การตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว

          สอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองรายให้การรับสารภาพว่าเป็นแอดมินคอยบริหารดูแลจัดการกลุ่ม รวมถึงตัดต่อถ่ายทำคลิปต่างๆด้วยตัวเอง ก่อนนำไปอัพโหลดให้กับบรรดาสมาชิกได้รับชม แต่อ้างว่าเด็กที่จ้างมาถ่ายคลิปนั้นเป็นการมาด้วยความสมัครไม่ได้ล่อลวง และไม่ทราบว่าเป็นเยาวชน โดยทำมานานนับปี เนื่องจากตัวเองเคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติดทำให้หางานทำยาก ไม่มีรายได้ กระทั่งมาทำเว็บดังกล่าวแล้วเห็นว่าได้รายได้ดีจึงทำเรื่อยมา เบื้องต้นจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปคม. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป