(2 ก.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ โรงเรียนช่างฝีมือทหาร นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ”กัน จอมพลัง” ได้พาทหารหญิงรับใช้ ที่ถูก ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ บัวแย้ม ตำแหน่ง ผู้บังคับหมู่กองกำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจสันติบาล 1 ใช้งานและทำร้ายร่างกาย มาติดตามความคืบหน้ากรณีที่ทางกองทัพไทยได้เรียกเงินเดือนคืนจำนวน ประมาณ34,000 บาท หลังจากที่ทหารหญิงยื่นลาออกจากราชการเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2565ที่ผ่านมา
นายกัณฐัศว์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทางทหารหญิงได้รับการติดต่อจาก ผู้บัญชาการโรงเรียนช่างฝีมือทหารให้เข้ามารับเงินช่วยเหลือเพื่อให้นำเงินไปคืนกองทัพไทย โดยเงินส่วนนี้ได้มาจากการเรี่ยรายบุคลากรในโรงเรียนและเพื่อนร่วมงานสมัยที่ทหารหญิงรายนี้เป็นเสมียนฝ่ายบัญชีของโรงเรียนก่อนที่จะถูกเรียกตัวไปช่วยราชการกับ ส.ต.ท.หญิง
ทั้งนี้เงินเดือนทุกเดือนตั้งแต่ช่วงต้นปี 2564 จนถึงเดือนพฤษภาคม 2565 ทหารหญิงไม่เคยได้รับ เนื่องจาก ส.ต.ท.หญิงยึดไปส่วนตัวและอ้างว่าเป็นส่วนที่จะต้องได้รับ และกำหนดว่าจะต้องได้รับ 7,000- 8,000 บาทต่อเดือน ซึ่งบางเดือนที่เงินเดือนของทหารรับใช้มีไม่ถึง ทำให้ต้องไปกู้ยืมจากคนอื่นหรือต้องขอจากทางครอบครัว ทำให้ขณะนี้ครอบครัวมีหนี้สินรวมทั้งหมดประมาณ 1 ล้านบาท
ด้านทหารหญิงกล่าวถึงประเด็นที่มีชื่อไปช่วยราชการกรรมาธิการที่วุฒิสภาว่า ส่วนนี้ตนยืนยันว่าไม่เคยทราบหรือเห็นเอกสารใดๆและไม่เคยเดินทางช่วยปฏิบัติงานใดนอกจากที่บ้านพักของ ส.ต.ท. รายนี้ ภายหลังเข้าไปติดตามทำเอกสาร ทหารหญิงกล่าวว่า ได้เห็นยอดรวมทั้งหมดที่ต้องชำระประมาณ 35,000 บาท ซึ่งตนได้พบกับผู้บังคับบัญชาและเพื่อนร่วมงานที่คอยให้กำลังใจมาตลอดและได้ทราบว่าเงินส่วนนี้ทุกคนช่วยกัน จึงรู้สึกว่าที่นี่ยังคงเป็นเหมือนบ้านที่อบอุ่นอนาคตหากจะกลับเข้ามารับราชการอีกครั้งจะขอกลับเข้ามาด้วยฝีมือของตัวเองด้วยความสามารถของตัวเอง
ส่วนกรณีที่ ส.ต.ท.หญิง หากได้รับการประกันตัวและจะตั้งโต๊ะแถลง อ้างว่าจะแฉกลับตนก็ไม่กลัวเพราะคิดว่าจากนี้ไม่มีอะไรที่ต้องกลัวแล้ว “ขอขอบคุณโรงเรียน ช่างฝีมือทหารที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีมาเสมอตั้งแต่เกิดเรื่อง และอยากให้หน่วยงานนี้เป็นต้นแบบหน่วยงานราชการอื่น ๆ ที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญกับชั้นผู้น้อย เวลาเกิดปัญหาและเข้าช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว” นายกัณฐัศว์ กล่าวทิ้งท้าย
Advertisement