ทลายเครือข่ายแก๊งค้าซากสัตว์ป่าส่งออกนอก

          เมื่อวันที่ 16 ก.พ.65 พล.ต.ท.ปัญญา ปิ่นสุข ผบช.ประจำสนง.ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต. มานะ กลีบสัตบุศย์ ผบก.ปทส. ผู้แทนกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ชุดปฎิบัติการพิเศษเหยี่ยวดง ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนายไมตรี บุญเศรษฐ์ศิริ อายุ 39 ปี ที่อยู่ 17 หมู่ที่ 1 ตำบลยางสาว อำเภอวิเชียร์บุรี จังหวัดเพชรบูรณ์,นายดวงดี มูลสามารถ อายุ 32 ปี ที่อยู่ 275 หมู่ที่ 6 ตำบลชานุมาน อำเภอชานุมาน จังหวัดอำนาจเจริญ และนายเทวิน ไม่มีนามสกุล อายุ 44 ปี (ชาวพม่าเชื้อสายมอญ) พร้อมของกลางหนังเสือโคร่งความยาว 3.10 เมตร กว้าง 80 ซม. หนังเสือดาว ขนาดกว้างกว่า 2 เมตร 2 ผืน และหนังเสือลายเมฆ 3 ผืน เขากวาง ออริกซ์ 1 เขา และลูกแมวดาว 3 ตัว (ยังมีชีวิต) และของกลางอื่นๆหลายรายการ รวมมูลค่าของกลางทั้งสิ้น 2,207,250 บาท

         พล.ต.ท.ปัญญา กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ ศปทส.ตร. ได้ทำการสืบสวนหาข่าวจากการประสานข้อมูลของมูลนิธิฟรีแลนซ์ว่า มีการลักลอบค้าซากสัตว์พันธุ์สัตว์ป่า ในพื้นที่จังหวัดกาญจบุรี จนทราบว่าที่หมู่บ้านซองกาเลีย ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี มีการนำหนังเสือและชิ้นส่วนของสัตว์ป่าอื่นๆ จากประเทศเพื่อนบ้านมาเก็บไว้เพื่อจำหน่ายให้กับนายทุน จึงได้วางแผนให้สายลับทำการติดต่อเพื่อขอซื้อสัตว์ป่าและซากของสัตว์ป่า จนกระทั่งต่อมาเมื่อวันที่ 15 ก.พ. สายลับได้ทำการโอนเงินเข้าบัญชี จำนวน 20,000 บาท และนัดหมายรับสินค้าที่สุกัญญา รีสอร์ท ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี จึงบูรณาการกำลังเข้าไปทำการตรวจสอบที่รีสอร์ทดังกล่าว พบผู้ต้องหาพร้อมของกลางซึ่งไม่ได้รับอนุญาตแต่อย่างใด

           พล.ต.ต.มานะ กล่าวว่า ในจำนวนของกลางที่ตรวจยึดได้มีลูกแมวดาว 3 ตัว ที่ยังมีชีวิต จะนำส่งให้ทางกรมอุทยานไปทำการอนุบาลต่อไป ซึ่งในส่วนแม่ของแมวดาว 3 ตัวนี้ จากการซักถามผู้ต้องหาให้การว่าได้นำไปฆ่าและนำไปประกอบอาหาร ส่วนของกลางอื่นๆ โดยเฉพาะซากเสือจะนำไปตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอหาสายพันธุ์ต่อไป

         ทั้งนี้การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิด ข้อหาร่วมกันมีสัตว์ป่าคุ้มครอง และซากของ สัตว์ป่าคุ้มครอง ไว้ใน ครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี อัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ,ร่วมกันค้าสัตว์ป่าคุ้มครองและซากของสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี  อัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จึงทำการจับกุมพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป