‘ทนายเดชา’ เตรียมเอาผิดกลับ ‘เต้’

           กรณีที่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ หรือ ส.ส.เต้ โพสต์เฟซบุ๊กว่า เตรียมแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลหนึ่ง ซึ่งคาดว่าคือนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ที่ สน.บางโพ ในวันที่ 8 มิ.ย.65 ใน 3 ข้อหาคือ ตามมาตรา 328 ถ้าความผิดฐานหมิ่นประมาทได้กระทำโดยการโฆษณา, มาตรา 309 ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ และ มาตรา 392 ผู้ใดทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจโดยการขู่เข็ญ และผิดมรรยาททนายความ กรณีที่นายเดชาไปร้องเรียนกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร แล้วมีการให้สัมภาษณ์ พูดในลักษณะว่า นายมงคลกิตติ์ จะเป็นศพ พร้อมฌาปนกิจ ว่า เป็นการข่มขู่
           เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ที่สำนักงานทนายคลายทุกข์ นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ แถลงว่าหาก ส.ส.เต้ ไปแจ้งความดำเนินคดีตน จากกรณีดังกล่าว ก็เข้าข่ายเป็นการแจ้งความเท็จ เป็นถึง ส.ส.แต่มีพฤติกรรมรังแกประชาชน ซึ่งการพูดในลักษณะนั้น เป็นการพูดเปรียบเปรยว่า การร้องเรียนดังกล่าว หากส่งผลให้ ส.ส.เต้ พ้นจากความเป็น ส.ส. เนื่องจากผิดจริยธรรม ก็เปรียบเสมือนเป็นการประหารชีวิตทางการเมือง ไม่ได้มีเจตนาข่มขู่ตามที่ ส.ส.เต้ เข้าใจ หาก ส.ส.เต้ ไปแจ้งความดำเนินคดี ตนก็จะฟ้องกลับเช่นกัน เพราะถือเป็นการแจ้งความเท็จ ยืนยันจะฟ้องสวนกลับทุกคดีที่ ส.ส.เต้ แจ้งดำเนินคดีกับตน และจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ให้ ส.ส.เต้ พ้นสภาพความเป็น ส.ส.ให้ได้
           นายเดชา กล่าวต่ออีกว่า แม้ ส.ส.เต้จะบอกว่า การมาทำคดีแตงโม เป็นการช่วยประชาชน แต่ตนเห็นว่าเป็นแค่การช่วยแม่แตงโมคนเดียว ซึ่งตนก็ถือเป็นประชาชนคนหนึ่ง และประชาชนในประเทศก็มีอีกกว่า 66 ล้านคน และขอตั้งคำถามว่า การที่จะไปดำเนินคดีกับตนในต่างจังหวัด นั่นก็แสดงว่ามีการเล่นพรรคเล่นพวก เพราะเหตุเกิดที่กรุงเทพฯ แต่จะไปแจ้งความที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็ถือเป็นการกลั่นแกล้ง ซึ่งตนก็จะต้องไปร้องเรียนเพิ่ม และจะทำให้ ส.ส.เต้ หลุดจากการเป็น ส.ส.เร็วขึ้นไปอีก ยืนยันว่าไม่ได้หมิ่นประมาท แต่ตนแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต เพราะ ส.ส.เต้ เป็นบุคคลสาธารณะ เป็นบุคคลทางการเมือง ต้องสามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ เมื่อพูดว่าเป็นคดีฆาตกรรม แต่ไม่มีหลักฐานมาเปิด ตนก็มองเป็นเรื่องตลก ซึ่งไม่มีความผิด ส่วนหากจะมาข่มขู่ให้ตนหยุดวิพากษ์วิจารณ์ ก็จะถือเป็นการข่มขู่ประชาชนอีก ซึ่งตนก็จะดำเนินคดีอีก
          อยากให้นายมงคลกิตติ์ ดูผู้ว่าฯ ชัชชาติ เป็นตัวอย่าง ที่มีคนร้องให้ตรวจสอบคุณสมบัติ แต่สุดท้ายนายชัชชาติ ยังกล่าวขอบคุณคนที่ร้อง ว่าการตรวจสอบทำให้ตัวเองเข้ารับตำแหน่งได้สง่างามมากยิ่งขึ้น แต่นายมงคลกิตติ์ กลับแจ้งความคนที่ร้องเรียน อีกทั้งยังดูถูกตนเองและทนายตั้มว่าเป็นวัชพืช ซึ่งการกระทำดังกล่าว เป็นการอาฆาตมาดร้ายบุคคลอื่น ดูถูกเหยียดหยามประชาชน ผิดจริยธรรม ส.ส.ขั้นรุนแรง
          “แม้ว่าผมเคยบอกไปแล้วว่าจะไม่วิพากษ์วิจารณ์คดีแตงโมอีก แต่ในเมื่อมีประชาชน มีนักข่าวมาสอบถามก็ต้องพูด เพราะถือว่าเป็นการให้ข้อมูลความรู้ที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน และถือเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ซึ่ง ส.ส.เต้ ไม่ใช่พ่อของผม ที่จะมาห้ามไม่ให้ผมพูดได้ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ผมได้แจ้งกองปราบปราม และแจ้งกับโฆษก ตร.ไปแล้ว เพราะเกรงว่า ส.ส.เต้ อาจส่งคนมาทำร้ายผม ถือเป็นการป้องกันตัว ครอบครัวตอนนี้หวาดผวาไปหมด โดยเฉพาะสุนัขของผม เมื่อบอกว่า ส.ส.จะมา ก็จะเห่าไม่หยุด” นายเดชา กล่าว
           นายเดชา ยังกล่าวด้วยว่า การที่แม่แตงโมจะเปิดภาพบาดแผลที่ศพของแตงโม นิดา ในการแถลงข่าวนั้น เป็นเรื่องที่ไม่สมควร เหมือนเป็นการทำร้ายผู้เสียชีวิตซ้ำสอง อาจเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา 366/4 ดูหมิ่นเหยียดหยามศพหรือไม่ และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 นำภาพอันไม่เหมาะสมเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เพราะในความเป็นจริงแล้ว คดีแตงโม นิดา ถือว่าจบแล้ว ในขั้นสอบสวน อยู่ระหว่างรอฟังคำสั่งคดีจากพนักงานอัยการ จึงมีความเป็นห่วงแม่แตงโมมากยิ่งขึ้น เพราะการฟ้องร้องคดีเจตนา ฆ่าผู้อื่นเป็นคดีใหม่ ก็จะไม่สามารถเป็นโจทก์ร่วมคดีกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายได้ คดีแรกไม่ได้ และหากคดีแรก ศาลพิพากษาตัดสินไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร การฟ้องร้องคดีที่ 2 ก็จะต้องยุติทันที อีกทั้งแม่แตงโม ก็ไม่สามารถยื่นอุทธรณ์ในคดีแรกได้ เนื่องจากไม่ได้เป็นโจทก์ร่วม ทำให้เสียประโยชน์ทางคดีได้ เพราะฉะนั้น จึงฝากถึงทีมกฎหมายของ ส.ส.เต้ ให้ข้อมูลเรื่องนี้กับแม่ด้วย อย่าหลอกลวงต้มตุ๋นประชาชน
           ส่วนคดีกระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ที่อัยการนัดฟังคำสั่งคดีในวันที่ 23 มิ.ย.นี้ หากอัยการมีคำสั่งฟ้องคดี ก็ถือว่าเป็นการรับรองว่าการสอบสวนของพนักงานสอบสวนชอบด้วยกฎหมาย จากนั้นกลุ่มบุคคลที่เคยกล่าวหา หรือให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อมวลชนว่า พนักงานสอบสวนทำคดีบกพร่อง มิชอบด้วยกฎหมาย หรือ กล่าวหาผู้ต้องหาคนบนเรือว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรม จะถูกผู้ที่ถูกกล่าวหาดำเนินคดีกลับอย่างแน่นอน
            นายเดชา กล่าวด้วยว่า ยังรักและเป็นห่วงคุณแม่แตงโม เหมือนเดิม ตอนนี้คุณแม่อาจจะสับสน เพราะไปคุยกับวิศวกร แทนที่จะไปคุยกับนักกฎหมาย ตนยังคงรักและเป็นห่วงคุณแม่เสมอ ชั่วนิรันดร์ และหากแม่กลับมาขอความช่วยเหลือก็ยินดีให้ความช่วยเหลือ และไม่ติดใจ หากจะรับเป็นลูกความใหม่อีกครั้ง
Advertisement