ทนายตั้มลั่นคดีลุงพลไม่ยาก นี่แค่เริ่มต้น เตรียมงานแล้ว 70%

            วันที่ 3 มิถุนายน 64 จ.มุกดาหาร ที่ สภ.กกตูม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความส่วนตัวของนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล ผู้ต้องหาคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่หลานของตัวเอง เผยว่าหลังจากนี้จะยื่นประกันตัว แต่ต้องขอความเมตตาต่อศาลเพราะว่าที่ผ่านมาลุงพลไม่มีพฤติการณ์หลบหนีหรือยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานเลย จึงอยากจะขอมาต่อสู้คดีข้างนอก เพราะถ้าหากไม่ได้ประกันตัว ก็จะต้องใช้เวลาสู้คดีในคุกซึ่งจะใช้เวลานานกว่าปกติ
         สำหรับตนแล้วคดีนี้เป็นคดีกระแส ไม่ได้มีความยาก หรือทำให้รู้สึกกังวล การออกหมายจับของตำรวจ ไม่ใช่จุดสิ้นสุดของคดี แต่เป็นการเริ่มต้นเท่านั้น

ทั้งนี้ตนเตรียมพยานหลักฐานทุกมิติเพื่อแสดงต่อศาล โดยเตรียมไปแล้ว 70 เปอร์เซ็นต์ หลักฐานที่ตนเตรียมมา ต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหาคำตอบมาให้ได้เพื่อนำมาต่อสู้คดีกัน ส่วนข้อกล่าวหาทั้ง 3 ข้อของตำรวจ มองว่าเป็นการคาดคะเนของชุดสืบสวน ไม่มีพยานเป็นประจักษ์บุคคลที่ชัดเจนว่าลุงพลมีพฤติการณ์ตามที่ถูกออกหมายจับ

ส่วนที่ตนพาลุงพลเดินทางเข้ามอบตัวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น เนื่องจากตอนแรกตนไม่มั่นใจว่ามีหมายจับจริงหรือไม่ กระทั่งลุงพลมาถึงที่กรุงเทพฯ เลยแสดงความบริสุทธิ์ใจไปมอบตัว แต่จากที่มีกระแสข่าวว่า ผบ.ตร.ไม่รับมอบตัว ตนมองว่าหมายจับใช้ได้ทั่วราชอาณาจักร ผบ.ตร.เองก็เป็นเจ้าพนักงานสอบสวนทั่วประเทศ หากท่านบอกว่าไม่มีอำนาจรับการมอบตัว ตนมองว่ามันคือการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้เช่นกันและที่ไปมอบตัวก็เพื่อเป็นเหตุผลที่เสนอต่อศาลเพื่อขอพิจารณาประกันตัวด้วย

Advertisement