ตำรวจ สน.ห้วยขวาง ขออนุมัติศาลออกหมายจับ “ปริญญ์” ข้อหาพรากผู้เยาว์เเละอนาจาร เเต่ศาลไม่อนุมัติ ระบุให้ออกเพียงหมายเรียก

ตำรวจ สน.ห้วยขวาง ขออนุมัติศาลออกหมายจับ “ปริญญ์” ข้อหาพรากผู้เยาว์เเละอนาจาร เเต่ศาลไม่อนุมัติ ระบุให้ออกเพียงหมายเรียก

เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 27 เม.ย. ที่ สน.ลุมพีนี พลตำรวจตรี ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองผู้ยัญชาการตำรวจนครบาลรอง (ผบช.น.) ได้เดินทางมาเข้าร่วมประชุมความคืบหน้าในคดีที่มีผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดี นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในความผิดฐาน “ล่วงละเมิดทางเพศและข่มขืน” หลังจากมีผู้เสียหายเข้าเเจ้งความว่าถูกกระทำอนาจารหลายราย

โดย พล.ต.ต.ไตรรงค์ กล่าวภายหลังเข้าร่วมประชุมว่า คดีมีความคืบหน้าไปมาก โดยเฉพาะคดีเเรกที่ สน.ห้วยขวาง พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานเพียงพอเเล้ว วันนี้ได้ขอศาลออกหมายจับในข้อหา “พรากผู้เยาว์” เเละ “กระทำอนาจาร” เเต่ศาลไม่อนุมัติหมายจับ โดยให้เรียกผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหาเเทน โดยศาลได้ให้ความเห็นว่าผู้ต้องหามาพบพนักงานสอบสวน และมีคดีในชั้นศาลแล้ว 4 คดี และได้ประกันตัวในชั้นศาล
ประกอบกับผู้ต้องหาไม่มีพฤติกรรมหลบหนี
จึงให้ออกหมายเรียกผู้ต้องหารับทราบข้อหาที่ สน.ห้วยขวาง ในวันที่ 5 พฤษภาคมนี้ เวลา 09.00 น.

ส่วนคดีอื่นในพื้นที่ สน.ลุมพินี ผู้เสียหายทั้งหมด 15 ราย มี 12 คดี ยังไม่มีรายใดถอนตัว เเละขณะนี้เจ้าหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานเเละสอบปากคำใกล้เสร็จสิ้นเเล้ว คาดว่าสัปดาห์หน้าจะสามารถเเจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหา ส่วนคดีที่จังหวัดเชียงใหม่เเละเพชรบุรี ก็ให้เเต่ละพื้นที่รับผิดชอบ

ทั้งนี้ตำรวจไม่มีความกังวลใจในสำนวนคดีเเละพยานหลักฐานต่าง ๆ เเม้ว่าจะเกิดเหตุกับผู้เสียหายเเต่ละรายมานานเเล้ว เเต่หลักฐานอื่น ๆ ก็สามารถเอาผิดกับผู้ต้องหาได้ ส่วนตัวผู้ต้องหานั้นได้สอบปากคำเสร็จไปเเล้ว 3 คดี ส่วนคดีอื่น ๆ หากจำเป็นต้องสอบปากคำเพิ่มเติม ก็จะเรียกผู้ต้องหามาสอบปากคำ ยืนยันตำรวจพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เเม้เเต่ตัวผู้ต้องหาเองก็สามารถเเสวงหาพยานหลักฐานเข้าสู่สำนวนได้

โดยการที่ครั้งนี้ตำรวจไปขอหมายจับเเต่ศาลให้ออกหมายเรียกเเทน ขอชี้เเจงกับสังคมว่า เนื่องจากเห็นว่าผู้ต้องหาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเเล้ว 4 คดี เเละมีเงื่อนไขในการประกันตัว จึงไม่จำเป็นที่จะต้องออกหมายจับซ้ำในคดีที่มีลักษณะเดียวกัน ส่วนข้อกังวลว่าผู้ต้องหาว่าผู้ต้องหาจะออกมายุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานเเละผู้เสียหายนั้น พล.ต.ต.ไตรรงค์ ระบุว่า ในเงือนไขการประกันตัวระบุไว้ชัดเจนว่าห้ามยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน มิเช่นนั้นจะถูกถอนประกันตัวทันที ซึ่งขณะนี้ตั้งเเต่ดำเนินคดีไป ยังไม่มีผู้เสียห่ยเข้ามาเเจ้งว่าผู้ต้องหาเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน

Advertisement