เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 29 ก.ย. ที่ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รองผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ปส. พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.พรพิทักษ์ รู้ยืนยง ผบก.ปส.1 พล.ต.ต.วัชรินทร์ บุญคง ผบก.ปส.2 พล.ต.ต.บรรพต มุ่งขอบกลาง ผบก.ปส.3 และ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมขบวนการยาเสพติดกลุ่มต่างๆ จำนวน 6 คดี ในห้วงเดือนกันยายน โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้รวม 17 คน พร้อมตรวจยึดยาบ้า 12,180,000 เม็ด กัญชา 850 กิโลกรัม น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า 48,600 ขวด
สำหรับการแถลงผลการจับกุมในครั้งนี้มีคดีน่าสนใจอยู่ 4 คดี โดยคดีแรก ตำรวจ บก.ปส.3 จับกุมนายโชติพัฒน์ กิ่งลูกอินไชยพร อายุ 38 ปี ชาว จ.สมุทรปราการ นายเก่งชัย โสมงาม อายุ 39 ปี ชาว จ.นครพนม นายเอกพงษ์ เอกเจริญอายุ 38 ปี ชาวกรุงเทพฯ นายอำพล โพธิประดิษฐ อายุ 39 ปี ชาว จ.สมุทรปราการ พร้อมของกลางยาบ้า 8 ล้านเม็ดรถยนต์ 3 คัน หลังสืบทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหาเตรียมการลักลอบขนยาเสพติดจากชายแดนภาคเหนือเข้าสู่พื้นที่ตอนกลาง โดยใช้รถกระบะเป็นรถขนยา พร้อมกับรถนำขบวน และ คุ้มกัน อีกอย่างละคัน จึงจัดกำลังเฝ้าสังเกตการณ์กระทั่งพบรถยนต์ของกลุ่มผู้ต้องหาขับเข้ามาจอดที่โรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่งในพื้นที่ บ้านห้วยมุ่น อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์จึงเข้าตรวจสอบจนนำไปสู่การจับกุมตัวผู้ต้องหาและตรวจยึดของกลางได้ดังกล่าว
คดีต่อมา บก.ปส.2 จับนายอนุพล ยมนา อายุ 35 ปี พร้อมของกลางกัญชาอัดแท่ง 560 กิโลกรัม สำหรับการจับกุมครั้งนี้ขยายผลมาจากการจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายลักลอบขนกัญชาคดีก่อนหน้านี้ จนทราบว่าเครือข่ายดังกล่าวจะมีการลักลอบขนลำเลียงกัญชาอัดแท่งอีกครั้ง โดยใช้เส้นทางถนนบึงกาฬ-หนองคาย จึงจัดกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ก่อนสามารถจับนายอนุพล พร้อมของกลางดังกล่าวได้บริเวณสี่แยกไฟแดงค่ายบกหวาน ม. 11 ถ.อุดรธานี – หนองคาย(ถนนมิตรภาพ) ต.ค่ายบกหวาน อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย
คดีน่าใจต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปส.2 บช.ปส. จับกุมนายอภิศิกดิ์ บุตรอุดม อายุ 25 ปี นายมนัส ดีเลิศ อายุ 32 ปี นายชญาน์วัชร เสมียนหร่าย อายุ 24 ปี นายบุญลือ พิทักษ์วงศ์ อายุ 47 ปี นายวัลลภ ดอนเสือ อายุ 43 ปี และชาวกัมพูชา 3 คน พร้อมของกลาง ยาบ้า 4 ล้านเม็ด รถยนต์ 4 คัน สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ ประมาณเดือน ก.พ. ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้จับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่กลุ่มหนึ่งในพื้นที่ภาคอีสาน จึงขยายผลติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการต่อเนื่องเรื่อยมา กระทั่งทราบว่าปัจจุบันผู้ร่วมขบวนการรายอื่นๆ ที่เหลืออยู่ยังคงไม่เข็ดหลาบ เตรียมลักลอบลำเลียงยาเสพติดล็อตใหญ่จากแนวชายแดน จ.บึงกาฬ ไปยังภาคกลางโดยใช้รถกระบะ และรถยนต์ เป็นยานพาหนะหลักจำนวน 4 คัน แบ่งเป็นรถขนยา รถนำขบวน และรถคุ้มกัน จึงสะกดรอยเฝ้าติดตาม กระทั่งพอขบวนรถดังกล่าวขับผ่านเข้ามายังพื้นที่ จ.สกลนคร จึงแสดงตัวเข้าตรวจสอบจับกุมได้ดังกล่าว
คดีน่าสนใจสุดท้าย ตำรวจ บก.ปส.4 จับนายซูลกีฟลี มามะเร็ง อายุ 27 ปี ชาว จ.นราธิวาส นายนิยูดี ปะจูสาลา อายุ 34 ปี ชาว จ.นราธิวาส พร้อมของกลางน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าสีกลิ่นต่างๆรวม 48,600 ขวด มูลค่า 7 ล้านบาท สืบเนื่องจากขณะปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่จุดตรวจความมั่นคงทุ่งสวรรค์ จ.ชุมพร ได้มีนายซูลกีฟลีขับรถกระบะผ่านเข้ามาด้วยท่าทีมีพิรุธ จึงเรียกตรวจสอบก่อนพบน้ำยาบุรี่ไฟฟ้าบรรจุด้วยลังกระดาษ 43 ลัง ซุกซ่อนอยู่กระบะหลัง จึงทำการจับกุม ก่อนให้การซัดทอดว่ายังมีนายนิยูดี รับขนมาด้วยเช่นกันโดยจอดรถรออยู่บริเวณที่ลานจอดรถปั้มน้ำมัน ต.วังตะกอ อ.หลังสวน จ.ชุมพร จึงนำกำลังติดตามไปจับกุมตัวได้พร้อมกับตรวจยึดน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าอีกจำนวน 42 ลัง จากนั้นจึงคุมตัวพร้อมของกลางส่ง สภ.ละแม จ.ชุมพร ดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันนำเข้าสินค้าที่ยังไม่ผ่านศุลกากรฯ ม.242 ,เป็นผู้ประกอบธุรกิจไม่ปฏิบัติตามคำสั่งความปลอดภัยของสินค้าฯ ม.29/9 และม.56/4 ตาม พรบ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 ต่อไป
Advertisement