วันที่ 16 ก.พ.64 ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. กล่าวถึงกรณีคดีจับกุมนายสมชาย จุติกิติ์เดชา หรือหลงจู๊สมชาย ว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนกองปราบยังอยู่ระหว่างขยายผลตรวจสอบเส้นทางการเงิน หาความเชื่อมโยงไปถึงผู้ร่วมขบวนการรายอื่นๆ รวมถึงเร่งสืบหาพยานหลักฐานอื่นๆมาประกอบเพิ่มเติมเพื่อให้สำนวนคดีมีความแน่นหนา การรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆอาจจำเป็นต้องใช้เวลาพอสมควร เพื่อความรอบคอบและรัดกุม ส่วนการที่นายสมชาย เป็นผู้กว้างขวางหรือผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ภาคตะวันออก รู้จักกับข้าราชการระดับสูงของหน่วยงานต่างๆ หลายคนจะส่งผลกระทบการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือไม่นั้น เชื่อว่าไม่มีผล เพราะกองปราบดำเนินการด้วยความชัดเจน อีกทั้งหากพบหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงใคร ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ก็จะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายเหมือนกันหมดไม่มีข้อยกเว้น
รายงานข่าวแจ้งว่าจากแนวทางสืบสวนเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีดังกล่าวพบว่าทรัพย์สินมีค่าและกิจการต่างๆ ของนายสมชายที่ได้มาจากเงินที่กระทำผิด ส่วนใหญ่จะถือครองโดยบุคคลใกล้ชิดรอบตัวหรือคนสนิทที่ไว้ใจเกือบทั้งหมด ซึ่งบุคคลเหล่านี้จะเป็นถือครองเพียงแค่ในนามเท่านั้น คล้ายกับลักษณะของ “นอมินี” เพื่อให้ยากต่อการตรวจสอบ แต่ทางเจ้าหน้าที่เองก็ไม่ได้หนักใจมากนักเนื่องจากมีพยานหลักฐานความเชื่อมโยงเส้นทางการเงินในส่วนนี้พอสมควรอยู่บ้างแล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างสืบหาและรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อเตรียมขออำนาจศาลออกหมายจับในความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงินบุคคลเหล่านี้ต่อไป
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ขณะเดียวกันในวันนี้ตั้งแต่ข่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีของกองปราบ ที่รับผิดชอบดำเนินการในส่วนของคดีฟอกเงิน ได้นำกำลังลงพื้นที่ จ.ระยอง อีกครั้ง เพื่อสืบหาพยานหลักฐานและประสานข้อมูลร่วมกับทางตำรวจท้องที่เพิ่มเติม
Advertisement