ตำรวจสอบสวนกลาง ร่วม อย. ขยายผลทลายขบวนการผลิตยาน้ำสมุนไพรเถื่อนผสมสเตียรอยด์ และผู้ขายยาสเตียรอยด์เถื่อน

       วันที่ 5 พ.ค. ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(บช.ก.) ภก.วีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.ธรากร เลิศพรเจริญ รอง ผบก.ปอท. รรท.รอง ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4 บก. ปคบ.ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติงานขยายผลการจับกุมการทลายแหล่งผลิตน้ำสมุนไพร ผสมสเตียรอยด์ และแหล่งผลิตภัณฑ์สมุนไพรไม่ได้มาตรฐาน และตรวจยึดของกลาง 124 รายการ ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น และจ.ระยอง รวม 6 จุด

            พล.ต.ต.อนันต์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตำรวจกก. 4 บก.ปคบ.ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)ตรวจค้นสถานที่ผลิตและเก็บอาหารและผลิตภัณฑ์สมุนไพรผิดกฎหมายใน จ.ขอนแก่น พบของกลางเป็นน้ำสมุนไพรกษัยเส้นตราปู่แดง ยาเม็ดในกลุ่มสเตียรอยด์ และยาเม็ดแก้ปวดไม่มีทะเบียนจำนวนมาก ต่อมาได้สืบสวนขยายผลถึงแหล่งที่มาจนทราบตัวผู้จำหน่ายยาสเตียรอยด์ จึงได้ตรวจค้นบ้านพักน.ส.อุบลรัตน์ (สงวนนามสกุล) ในพื้นที่ หมู่ 3 ต.ใหม่นาเพียง อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น พบหลักฐานทางการเงินว่าเป็นผู้จำหน่ายยาสเตียรอยด์ ให้กับกลุ่มผู้ค้าเครื่องดื่มสมุนไพรผสมสเตียรอยด์ในพื้นที่ใกล้เคียงและตรวจยึดเครื่องดื่มสมุนไพรยี่ห้อ ธิดาเทพ และดีเฮิร์บ จำนวนหนึ่ง พร้อมของกลางที่เกี่ยวข้องกับการผลิตเครื่องดื่มผสมสมุนไพรในบ้านพักนายเดชา(สงวนนามสกุล) และนายจำเนียร(สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นสามีของนางอุบลรัตน์ที่อยู่ใกล้กันรวมทั้งเข้าค้นโรงงานผลิตอาหารและเครื่องดื่มสมุนไพร 2 แห่งในพื้นที่หมู่ 8 ต.บ้านแท่น อ.ชนบท จ.ขอนแก่น ที่เชื่อมโยงกับผู้ขายเครื่องดื่มสมุนไพรผสมสเตียรอยด์ ก่อนเข้าตรวจค้นบ้านพักของภรรยานายเดชาในพื้นที่หมู่ 4 ต.บ้านค่าย อ.บ้านค่าย จ.ระยอง พบเครื่องดื่มสมุนไพรยี่ห้อธิดาเทพ และเดย์เฮิร์บ ได้อีกจำนวนมาก

           พ.ต.อ.เนติ กล่าวว่า น.ส.อุบลรัตน์ ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ขายยาสเตียรอยด์ให้กับกลุ่มผู้ผลิตและค้าเครื่องดื่มสมุนไพรผสมยาสเตียรอยด์ในชุมชนและพื้นที่ใกล้เคียงหลายราย โดยได้ไปซื้อยาสเตียรอยด์ จากร้านขายยาแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น จำนวนมากมาแบ่งขาย ส่วน นายเดชาประกอบอาชีพเป็นครู อัตราจ้างรับว่า เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ ธิดาเทพ และ เดย์เฮิร์บ โดยได้สั่งผลิตเครื่องดื่มสมุนไพรจากโรงงานและนำมาผสมยาสเตียรอยด์ก่อนนำไปจำหน่าย ซึ่งของกลางที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจยึดส่วนหนึ่งมีการผสมยาสเดียรอยด์ที่ซื้อมาจาก น.ส.อุบลรัตน์เข้าไปแล้ว ซึ่งหากนางอุบลรัตน์ไม่มีขายก็จะไปซื้อจากร้านขายยาใน อ.พล จ.ขอนแก่น จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. จึงได้นำของกลางส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ.ดำเนินคดีตามพ.ร.บ.อาหาร พ.ศ. 2522 ฐาน “ผลิตและจำหน่ายอาหารไม่บริสุทธิ์ เป็นอาหารที่มีสิ่งที่น่าจะเป็นอันตรายแก่สุขภาพเจือปนอยู่ด้วย” ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พ.ร.บ.ยา พ.ศ. 2510 ฐาน “ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต” ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท และ “ขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา” ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ก่อนเตรียมขยายผลจับกุมต่อไป

ภก. วีระชัย กล่าวว่า ขอฝากไปยังบุตรหลานให้สอดส่องการรับประทานยาของพ่อแม่ภายในบ้าน เพราะปัญหาของผู้สูงวัยคืออาการปวดเมื่อยตามร่างกายและไม่ชอบไปโรงพยาบาล จึงมักหาซื้อยามารับประทานเอง และยาเหล่านี้มักให้ผลดีคืออาการหายปวดที่หายปวดอย่างรวดเร็ว ผู้สูงอายุจึงติดใจและหาซื้อมารับประทานอย่างต่อเนื่อง โดยไม่รู้ว่ายาเหล่านี้อันตรายต่อสุขภาพ และหากใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานานจะเริ่มแสดงอาการผิดปกติที่สังเกตได้ตั้งแต่มีใบหน้ากลมอูมเหมือนพระจันทร์ มีโหนกที่แก้ม มีหนอกที่คอ ตัวบวมเริ่มมีไตวาน ถ้าหยุดยากะทันหันจะทำให้เกิดภาวะช็อกได้ “สเตียรอยด์” จึงเป็น “ยาควบคุมพิเศษ” ร้านเฉพาะผู้ป่วยที่มีใบสั่งยาจากแพทย์เท่านั้น จึงขอเตือนผู้บริโภคก่อนซื้อผลิตภัณฑ์สุขภาพใดๆ ควรตรวจสอบข้อมูลอนุญาตทางเว็บไซต์ อย. ww.fda.moph.go.th ก่อนทุกครั้ง

Advertisement