ตำรวจภูธร ภาค 1 สนธิกำลังจับกุมเครือข่ายยาเสพติดภาคเหนือ ขณะลำเลียงเข้าพื้นที่ภาคกลาง สามารถตรวจยึดยาบ้าได้ 3,592,000 เม็ด,ไอซ์ 73 กก. และกัญชาแห้งอัดแท่ง อีก 649 กิโลกรัม

         (4 ก.พ.65) ที่ กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ ผบก.ภ.จว.สระบุรี, พ.ต.อ.ศุภากรณ์ จันทราบุตร รอง ผบก.ภ.จว.สระบุรี, พ.ต.อ.ไกรสร  ศรีอำพร ผกก.สส.ภ.จว.สระบุรี ร่วมกับกองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี และ ชุดปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี ,สำนักงานปปส. แถลงผลการกวาดล้าง เครือข่ายยาเสพติดภาคเหนือ รวม 2 คดี
          โดยคดีแรก สามารถจับกุม นายธรรมรัตน์ จิตรสนอง, นายศิริกรณ์ ต้องเชื้อ และ นางสาว รชาดา จิตรสนอง พร้อมของกลาง ยาบ้า3,592,000 เม็ด ยาไอซ์  73 กิโลกรัม ,รถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่น JAZZ หมายเลขทะเบียน กบ 2683 ลพบุรี โดยจับกุมได้ บริเวณซอยข้างโรงเรียนเทพศิรินทร์ พุแค หมู่ 1 ต.พุแค อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี

          สำหรับการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลจากการการจับกุมยาบ้า 5.3 ล้านเม็ด ไอซ์ 39 กก. ซึ่งเป็นของเครือข่าย “สายเบิร์นเต็มระบบ” จนทราบว่าจะมีการลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคเหนือแถบจังหวัดเชียงรายนำยาเสพติดมาส่งให้กับผู้รับยาเสพติดเพื่อนำไปจำหน่ายในพื้นที่ภาคกลาง โดยใช้บริเวณซอยข้างโรงเรียนเทพศิรินทร์ พุแค หมู่ 1 ต.พุแค อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี เป็นสถานที่ในการส่งมอบ จึงนำกำลังสังเกตการณ์ กระทั่งพบรถต้องสงสัยขับออกมาจากในซอยดังกล่าว จึงได้เรียกหยุดรถเพื่อตรวจสอบ แต่ผู้ขับขี่พยายามขับหลบหนีและเกิดเสียหลักชนกับรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับความเสียหาย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงเข้าแสดงตน จึงพบว่ารถยนต์คันดังกล่าวมีนายธรรมรัตน์ จิตรสนอง เป็นผู้ขับขี่ โดยมีนายศิริกรณ์ ต้องเชื้อ และ น.ส.รชาดา จิตรสนอง โดยสารอยู่ภายในรถ จากการตรวจค้นพบของกลางทั้งหมดอยู่ในรถดังกล่าว
            สอบสวนให้การรับสารภาพว่า ได้ค่าจ้างในการลำเลียงจำนวน 50,000 บาทเพื่อนำไปส่งให้กับนายทุนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เบื้องต้นแจ้งข้อหา“ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในความครอบครองโดย   ผิดกฎหมาย เพื่อก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน” ส่งพนักงานสอบสวน สภ.หน้าพระลาน เพื่อดำเนินคดี ตามกฎหมายต่อไป
            คดีที่สองจับกุมนายกำพลหรือต้อม กิติผง อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 119 หมู่ 5 ต.โพนบก อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม พร้อมของกลางกัญชา 649 กิโลกรัม รถยนต์กระบะยี่ห้อมาสด้า รุ่น BT – 50 สีขาว หมายเลขทะเบียน 1ฒท 8070 กรุงเทพมหานคร โดยจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 60/2 หมู่ที่ 5 ต.บ่อตาโล่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา

             สืบเนื่องจากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สืบสวนและรับแจ้งจากสายลับ ทราบว่า นายวิรัต์หรือ “บัง” แตงสุก มีพฤติการณ์เป็นผู้ค้ายาเสพติดประเภทกัญชารายใหญ่ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดใกล้เคียง โดยจะนำยาเสพติดเก็บไว้เพื่อรอจำหน่ายให้กับลูกค้าภายในบ้านดังกล่าว จึงนำกำลังไปจับกุม เมื่อไปถึงพบ นายวิรัต์ หรือ “บัง” และนายกำพล หรือ “ต้อม” กำลังช่วยกันลำเลียงกัญชาเพื่อนำเข้าไปเก็บภายในบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม ก่อนที่นายวิรัตน์จะอาศัยจังหวะหลบหนีไปได้

           สอบสวนให้การรับว่า ได้รับคำสั่งจากนายต้น ไม่ทราบชื่อ – สกุลจริง ให้มาขับรถยนต์กระบะยี่ห้อมาสด้า สีขาว คันดังกล่าว จากบริเวณเชียงกงวังน้อย และมาส่งที่บ้านหลังดังกล่าว ซึ่งบ้านดังกล่าวเป็นของนายบัง เพื่อรอจำหน่ายในราคาก้อนละ 7000 บาท และหากปล่อยไปยังภาคใต้จะได้ราคาก้อนละ 10000 บาท โดยทำมาแล้วจำนวน 2 ครั้ง จะได้รับค่าจ้าง เป็นเงินจำนวน 10,000 บาท เมื่องานสำเร็จ แต่มาถูก จนท.ตร. จับกุมเสียก่อน เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหา “ครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) เพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต” จากนั้นจึงควบคุมตัวผู้ต้องหา ส่งพนักงานสิบสวน สภ.วังน้อย เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

Advertisement