ตำรวจป่าไม้ ลุยภาคเหนือปูพรมค้นเชียงใหม่ ลุยร้านค้าครอบครองเลื่อยโซ่ยนต์ผิดกฎหมาย ตัดขั้นตอนทำลายป่า

         วันที่ 8 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ผบก.ปทส.) สั่งการให้ พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก.4 บก.ปทส. จัดยุทธการ “ลุยล้านนา” ปูพรมค้นร้านค้าอุปกรณ์การเกษตรกลางเมืองเชียงใหม่กว่า 10 แห่ง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากกรมป่าไม้ ตำรวจตระเวนชายแดน และตำรวจสืบสวนภาค 5 กว่า 60 นาย ร่วมป้องปรามและตัดขั้นตอนการตัดไม้ทำลายป่าตั้งแต่ต้นเหตุ ทั้งนี้ผลการตรวจค้น สามารถตรวจยึดเลื่อยโซ่ยนต์ที่ผิดกฎหมายได้กว่า 30 รายการ และดำเนินคดีกับผู้ต้องหา 10 ราย นำส่งสถานีตำรวจ 3 แห่ง ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่

         พ.ต.อ.ศานุวงษ์ กล่าวว่า การครอบครองเลื่อยโซ่ยนต์นี้ ไม่ได้เป็นสิ่งที่หวงห้าม แต่เป็นสิ่งที่ พระราชบัญญัติเลื่อยโซ่ยนต์ พ.ศ.2545 ได้มีข้อกำหนดให้ผู้ต้องการจะครอบครองเลื่อยโซ่ยนต์จะต้องขออนุญาตกับกรมป่าไม้เสียก่อน หากมีคุณสมบัติที่จะครอบครองได้ ทางกรมป่าไม้ จึงจะออกเอกสารการอนุญาตให้ครอบครอง แต่หากฝ่าฝืน ก็จะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งที่ผ่านมาพบว่าเลื่อยโซ่ยนต์ มักเป็นอุปกรณ์หลักที่ใช้ในการตัดไม้ทำลายป่า เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูงในการตัดไม้ และยังเป็นอุปกรณ์ที่หาได้ง่ายจากร้านค้าอุปกรณ์การเกษตรทั่วไป จึงได้มีปฏิบัติการปราบปรามการจำหน่ายเลื่อยโซ่ยนต์ที่ผิดกฎหมาย ซึ่งถือว่าเป็นต้นเหตุทำให้ประชาชนคนทั่วไปมีการเอาเลื่อยโซ่ยนต์ไปตัดไม้โดยขาดการควบคุม และก่อให้เกิดการกระทำความผิดเกี่ยวกับการตัดไม้ทำลายป่าเป็นจำนวนมาก

         พ.ต.อ.ศานุวงษ์ กล่าวด้วยว่า หากผู้สนใจกำลังที่จะหาซื้อเลื่อยโซ่ยนต์มาครอบครอง ไม่ว่าจะเป็นช่องทางออนไลน์ และร้านค้าที่จำหน่ายโดยไม่มีการตรวจสอบการได้รับอนุญาต อาจต้องพิจารณาว่า จะคุ้มหรือไม่ที่ท่านอาจจะต้องเสี่ยงถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

         ขอฝากประชาสัมพันธ์แก่ประชาชนทุกท่าน หากพบบุคคลที่มีพฤติกรรมการในการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สามารถแจ้งเบาะแสมาได้ที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สายด่วน 1136 หรือ Facebook บก.ปทส. Greencop – Thailand.