พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีอาญา บริษัท วีเค การ์เมนต์ ใน อ.แม่สอด จ.ตาก ที่ได้รับการร้องเรียนว่า มีการบังคับใช้แรงงานต่างด้าวจำนวน 120 ราย โดยจากการร่วมกันตรวจสอบทั้งตำรวจ กรมแรงงงาน และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
พบว่า โรงงานดังกล่าวมีการบังคับใช้แรงงานเกินเวลาจริง คือ มากกว่า 99 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ โดยมีอัตราค่าจ้างต่ำกว่า 170 บาทต่อวัน และทำงานภายใต้สภาพแวดล้อมที่อันตรายเป็นระยะเวลานาน อีกทั้งยังมีการยึดเอกสารสำคัญประจำตัวของคนต่างด้าว และบังคับให้ลูกจ้างเปิดบัตรเอทีเอ็มเพื่อให้นายจ้างเป็นผู้กดเงินสด และหักเงินบางส่วนก่อนจ่ายให้แก่ลูกจ้าง
นอกจากนี้ ยังพบว่าในช่วงที่มีคำสั่งซื้อจำนวนมาก ลูกจ้างต้องทำงานติดต่อกันมากกว่า 7 วันโดยไม่มีวันหยุด หรือมีเวลาพักเพียงวันละ 1 ชั่วโมงเท่านั้น
เจ้าหน้าที่จึงได้ขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทจำนวน 3 ราย คือ นายธนกฤต รัตนชัยภูมิ, นายศรัณย์ สารบรรณ, นางสาววิภารัตน์ กงชัยภูมิ เพื่อดำเนินคดีอาญา ในความผิดฐานฉ้อโกงบัตรอิเล็กทรอนิกส์, ความผิดตามพระราชกำหนดบริหารจัดการทำงานของคนต่างด้าว, และพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน โดยจับกุมตัวได้แล้วทั้ง 3 ราย และหลังจากนี้จะออกหมายเรียกให้กรรมการผู้จัดการของบริษัท จำนวน 2 ราย มารับข้อกล่าวหาในความผิดฐานเป็นนายจ้างให้ลูกจ้างทำงานล่วงเวลาโดยไม่ได้รับ
ความยินยอมด้วย
พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์กล่าวว่า หลังจากนี้จะมีการจัดชุดปฏิบัติการขนาดเล็กของตำรวจและทีมสหวิชาชีพ โดยอิงข้อมูลจากองค์กรอิสระหรือ NGO เพื่อตรวจสอบการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับแรงงานให้เข้มงวดยิ่งขึ้น เพื่อให้แรงงานข้ามชาติและแรงงานของไทยได้รับการคุ้มครอง ถูกต้องตามหลักสิทธิมนุษยชน และเพื่อยกระดับสถานการณ์การค้ามนุษย์ของประเทศไทยให้อยู่ในระดับที่ดียิ่งขึ้น ขณะเดียวกันยังต้องตรวจสอบไปถึงบริษัทแม่ผู้ว่าจ้าง เกี่ยวกับการเลือกจ้างโรงงานผลิตสินค้าที่ราคาถูกแต่อาจมีการใช้แรงงานไม่เป็นธรรมด้วย
ส่วนคดีแพ่งที่ผู้เสียหายได้รวมตัวเรียกร้องต่อสำนักงานทนายความ และยื่นฟ้องต่อศาลสูงอังกฤษเกี่ยวกับการใช้แรงงานผิดกฎหมายนั้น เมื่อศาลสูงอังกฤษมีคำพิพากษามาแล้วจะให้ดำเนินการฟ้องเรียกค่าเสียหายนำมาเยียวยากับผู้ที่ได้รับผลกระทบต่อไป