ตำรวจนครบาลร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่การแพร่ระบาดในชุมชน ตามแผนปฏิบัติการกวาดล้างผู้ค้ารายย่อย

(25 ก.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (บก.สปพ.) หรือ 191 ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล 1-9, สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกรุงเทพมหานคร, กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (บก.สปพ.) และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันปฏิบัติการระดมปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ตามคำสั่งการของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในการแก้ไขปัญหายาเสพติดซึ่งให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการร่วมกันอย่างเร่งด่วนและจัดการปัญหายาเสพติดในทุกระดับ ครั้งที่ 7/2567

โดยพลตำรวจตรี ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.น. เปิดเผยว่า ผลการปฎิบัติการระดมปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้เข้าปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นชุมชนแพร่ระบาดยาเสพติด จำนวน 237 เป้าหมาย โดยมีจำนวนเครือข่ายยาเสพติดที่เข้าดำเนินการปราบปรามทั้งหมด 166 เครือข่าย มีผลของการจับกุมรวมทุกข้อหา 225 คดี สามารถจับกุมได้ตามหมายจับ 14 คดีแบ่งเป็น ผลการจับกุมข้อหาร้ายแรง 105 คดี เช่น สมคบ / สนับสนุน/ จำหน่ายและครอบครอง รวมถึงผลการจับกุมข้อหาไม่ร้ายแรง จำนวน 111 คดี ในข้อหาครอบครองเพื่อเสพและเสพ นอกจากนี้ยังสามารถตรวจยึดของกลางเป็นยาเสพติดประกอบด้วยยาบ้าจำนวนกว่า 5.3 แสนเม็ด ไอซ์จำนวนกว่า 46 กิโลกรัม / คีตามีน จำนวน 639 กรัมและเฮโรอีนจำนวน 74 กรัม รวมถึงอาวุธปืนอีก 8 กระบอก โดยสามารถตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดรวมมูลค่าประมาณ 23 ล้านบาท ทั้งรถหรู สินค้าแบรนด์เนม เครื่องประดับ นาฬิกาหรู เงินสด และสมุดบัญชีธนาคาร

ส่วนคดีสำคัญที่สามารถจับกุมได้ในวันนี้ ในพื้นที่ของ บก.น.1 สามารถจับกุมกลุ่มอาชญากรข้ามชาติโดย สามารถจับกุมผู้บงการเป็นชายสัญชาติจีน คือ นายไหหง หวง อายุ 34 ปี ที่เข้ามาอยู่อาศัยและแต่งงานกับหญิงไทย มีพฤติการณ์ในการค้ายาเสพติด ประเภทยาไอซ์ ที่จะนำส่งโดยบริษัทขนส่งชื่อดังไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งการจับกุมพบไอซ์ซุกซ่อนภายในบ้านพักประมาณ 18.8 กิโลกรัม รวมถึงสามารถยึด อายัดทรัพย์สินได้อีกกว่า 4 ล้านบาท พร้อมทั้งเตรียมขยายผลการจับกุมเพิ่มเติมในเครือข่าย ที่มีทั้งคนไทยและคนจีน

นอกจากนี้ยังมีการจับกุมของ บก.สปพ. เป็นการจับกุมขยายผลหลังจากที่ได้ลงตรวจพื้นที่ตรวจค้นยาเสพติดตามร้านอาหารและงานปาร์ตี้ต่างๆ ซึ่งขณะนั้นพบของกลางเป็นไอซ์จำนวน 5 จี จึงได้ขยายผลพบผู้ค้าเป็นนายบอย อายุ 30 ปี มีพฤติการณ์ในการค้ายาเสพติดทั้งไอซ์ คีตามีน ให้กับกลุ่มไฮโซและกลุ่มชายรักชาย โดยการใช้ยาเสพติดซุกซ่อนในกระปุกครีมที่มีการทำผลิตภัณฑ์ขึ้นมาบังหน้า และจะซุกซ่อนอำพรางยาเสพติดไว้ภายในกระปุก กระปุกละไม่เกิน 5 จี โดยจะจำหน่ายในราคาจีละ 2,000 บาท โดยได้ทำมาแล้วประมาณ 5 ปี ส่วนผลการจับกุมสามารถตรวจยึดของกลางเป็นไอซ์ประมาณกว่า 4 กิโลกรัม / MDMA 5 เม็ด และ คีตามีนกว่า 17 กรัม พร้อมทั้งสามารถยึดอายัดทรัพย์สินเป็นสินค้าแบรนด์เนมจำนวนมาก และรถหรู 1 คัน รวมมูลค่ากว่า 15 ล้านบาท

ด้านนายอุดมชัย โลหณุต ผู้อำนวยการสำนักงาน ปปส. กทม. บอกด้วยว่า รัฐบาลมีนโยบายการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเร่งด่วน รวมถึงท่านนายกรัฐมนตรีได้ลงมาดูแลแก้ไขปัญหานี้ด้วยตัวท่านเองในการเร่งปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง โดยมีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วยและนำผู้ติดยาเสพติดเข้าสู่กระบวนการบำบัด คืนคนดีสู่สังคม โดยมุ่งเป้าแก้ปัญหาการระบาดในพื้นที่ชุมชน ได้มีการเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานทำงานอย่างเข้มข้น และให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่เกิดจากปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดในชุมชน และสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดจนเพิ่มความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อภาครัฐในการแก้ไขปัญหายาเสพติดที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งหากประชาชนท่านใดที่พบเห็นหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิดทั้งการจำหน่ายยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษหรือ โทรศัพท์สายด่วน 191

Advertisement