ตำรวจจ่อเอาผิดคลินิกศัลยกรรมฝ่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ลักลอบเปิดทำสาววัย 34 เสียชีวิต

          เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 64 พ.ต.อ.กฤช กัญชนะ ผกก.สน.เตาปูน ได้ทำรายงานชี้แจ้งข้อเท็จจริงมายังกองบัญชาการตำรวจนครบาล กรณี น.ส.ศิริกุล ราศีทรัพย์ อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นบุตรสาว ได้มาเข้าทำการรักษาศัลยกรรมหน้าท้อง ที่คลินิกแห่งหนึ่ง ถนนประชาราษฎร์สาย 2 แล้วช็อกเสียชีวิตในเวลาต่อมาว่า เมื่อวานนี้ (11 มิ.ย) เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.เตาปูน ได้ทำการตรวจสอบคลินิกดังกล่าวในเบื้องต้น พบว่าคลินิกดังกล่าวเป็นตึกแถว 2 คูหา อยู่ใกล้กับทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้า MRT สามแยกเตาปูน ด้านทิศตะวันตก มีป้ายคลินิกอยู่หน้าร้าน และคลินิกปิดประตูด้านหน้าทั้งหมด ไม่มีผู้ใดอยู่ภายใน
         จากการสอบถามร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าใกล้เคียงแจ้งว่า คลินิกดังกล่าวปิดตั้งแต่โควิด-19 ระบาด ปกติลูกค้าของคลินิกจะเป็นลูกค้านัดหมายเข้ามามากกว่า ตอนนี้พนักงานสอบสวน สน.เตาปูนได้ประสานไปยังกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เพื่อทำการตรวจสอบว่าสถานที่ดังกล่าว ได้ดำเนินการถูกต้องตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 หรือไม่อย่างไร
           เบื้องต้นพบว่าคลินิกดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการและขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ให้บริการเสริมความงาม อาทิ ดูดไขมัน เสริมหน้าอก เสริมจมูก เสริมคาง ฯลฯ แต่เมื่อติดต่อไปยังผู้ประกอบกิจการ เพื่อเข้าตรวจสอบสถานที่พบว่าไม่สามารถติดต่อได้ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพจะได้เชิญผู้ประกอบกิจการและผู้ดำเนินการมาให้ถ้อยคำที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพต่อไป
           กรณีการเสียชีวิตจะต้องนำเข้าคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งมีอัยการ, แพทยสภา, กรมการแพทย์, อย., สคบ. ร่วมเป็นอนุกรรมการด้วย โดยจะมุ่งตรวจสอบในส่วนของมาตรฐานการให้บริการตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 และตัวผู้ให้บริการในวันที่เกิดเหตุว่า เป็นแพทย์จริง หรือปล่อยให้บุคคลอื่นมาให้บริการแทนจนเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต
          ส่วนประเด็นที่คลินิกลักลอบให้บริการเสริมความงามในระหว่างที่กรุงเทพมหานครมีคำสั่งกำหนดให้คลินิกเวชกรรมที่เสริมความงาม ปิดดำเนินการเป็นการชั่วคราวเพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 นั้น พนักงานเจ้าหน้าที่จะดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน ส่งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการฐานฝ่าฝืนพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 25) ต่อไป
Advertisement