ตามจับพ่อแท้ๆ ข่มขืนลูกสาววัย 12 น้าทนไม่ไหวแจ้งตำรวจจับ เจ้าตัวปากแข็งอ้างไม่เคยทำเรื่องบัดสี

 

เมื่อวันที่ 25 ต.ค.64 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก สั่งการให้ พล.ต.ต.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบก.ปฏิบัติการพิเศษ (บก.ปพ) พ.ต.อ.อภิสัณฐ์ ไชยรัตน์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.ปพ. นำกำลังจับกุมนายเอก จุ่นคช อายุ 43 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดสิงห์บุรี ข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี ซึ่งมิใช่ภรรยาของตน โดยจับกุมได้ที่บริเวณหน้าโรงเรียนท่าวุ้ง อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี

สืบเนื่องจากเมื่อปี 2547 ขณะที่ นายเอก ผู้ต้องหา ยังอยู่กินกับนางสมศรี (นามสมมุติ) ได้ถูกจับกุมในข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ถูกศาลพิพากษาจำคุก ซึ่งระหว่างที่นายเอกอยู่ในคุก นางสมศรีก็ได้คลอดบุตรสาวชื่อ ด.ญ.นิล (นามสมมุติ) ก่อนจะนำบุตรสาวไปให้สถานสงเคราะห์ศูนย์ประชาบดี จ.สิงห์บุรี ดูแล ส่วนตัวเองก็ไปอยู่กินกับสามีใหม่

ต่อมาหลังนายเอกพ้นโทษออกมาก็ได้ ไปรับตัวด.ญ.นิล ซึ่งขณะนั้นมีอายุประมาณ 6 ขวบ มาเลี้ยงดู โดยมาพักอาศัยอยู่ด้วยกันที่บ้านพักตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.บางกระบือ อ.เมืองสิงห์บุรี จ.สิงห์บุรี จนกระทั่ง ด.ญ.นิล มีอายุ 12 ปี คืนวันเกิดเหตุ นายเอกเห็นลูกสาวนอนอยู่เพียงลำพัง จึงเข้าไปใช้กำลังปลุกปล้ำข่มขืน พร้อมข่มขู่ไม่ให้นำเรื่องไปบอกใคร แต่พอเช้าวันรุ่งขึ้น เด็กจึงรีบหลบหนีไปหาน้าสาวเพื่อเล่าเรื่องที่เกิดขึ้น และให้พาเข้าแจ้งความดำเนินคดีตามกฏหมาย

ต่อมาศาลจังหวัดสิงห์บุรี ได้อนุมัติออกหมายจับ แต่ระหว่างนั้น นายเอกเกิดไหวตัวทันชิงหลบหนีออกจากพื้นที่ไป จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมทราบว่าปัจจุบันนายเอกได้หลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่จ.ลพบุรี จึงเข้าจับกุมตัวได้ดังกล่าว

จากการสอบสวน นายเอกให้การว่า ด.ญ.เอ นั้นเป็นลูกสาวแท้ๆ ของตน ซึ่งคลอดระหว่างที่ตัวเองถูกจำคุก หลังพ้นโทษก็ไปรับมาดูแล และตนก็ไม่เคยก่อเหตุบัดสีตามที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด และก็ไม่รู้ว่าทำไมลูกสาวถึงไปบอกคนอื่นว่าถูกข่มขืนแบบนี้ แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อเบื้องต้นจึงนำตัวส่ง สภ.เมืองสิงห์บุรี ดำเนินคดีต่อไป
Advertisement