ตั๋น-จิตสภัสร์ ตัวแทน กมธ.หารือคดีตำรวจยิงคนตายหน้า สน.ดุสิต

            วันที่ 8 มกราคม 64 ที่ห้องประชุมชั้น 3 สน.ดุสิต น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร เดินทางมาติดตามกรณีที่ครอบครัวเจ้าหน้าที่องค์การเภสัชกรรมที่ถูกยิงเสียชีวิตหน้า สน.ดุสิต ยื่นหนังสือขอเปลี่ยนชุดพนักงานสอบสวน เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
             น.ส.จิตภัสร์ กล่าวว่า ตนมาในนามกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งได้รับหนังสือจากนางจันทร์เพ็ญ สิทธิบุ่น ในวันนี้มีการพูดคุยกับทั้ง 2 ฝ่าย โดยประสานงานกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.)​เกี่ยวกับเรื่องคดี ตนอยากสร้างความมั่นใจให้กับผู้ร้อง ในฐานะกรรมการธิการตำรวจก็จะติดตามคดีนี้ และเชื่อมั่นว่าจะมอบความเป็นธรรมให้กับทั้ง 2 ฝ่าย

             ทางผู้ร้องต้องการที่จะเปลี่ยนคณะทำงานคดี จึงได้มีการประสานไปยังผู้บัญชาการตำรวจนครบาล โดยพล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พร้อมที่จะตั้งคณะกรรมการทำงานในระดับกองบัญชาการมาทำในคดีนี้ และขอเป็นกำลังใจให้ทั้ง 2 ฝ่าย เพราะเข้าใจว่าตำรวจก็ทำงานอย่างเคร่งครัด ซึ่งทราบว่าในคดีนี้ได้เร่งสอบสวนอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นคดีอุจฉกรรจ์ที่สนใจของประชาชน
           ขณะที่ พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบ.ตร.กล่าวว่า บช.น.ขอแสดงความเสียใจกับการสูญเสียในครั้งนี้ จากการประชุมก็ได้รับทราบปัญหาความไม่สบายใจ ยืนยันว่าการดำเนินคดีทุกคดี เรายึดข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเป็นหลัก ไม่ว่าผู้กระทำผิดจะเป็นตำรวจหรือใครก็ตามต้องอยู่ใต้กฎหมายเดียวเท่านั้น ขอให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตเชื่อมั่นและมั่นใจในการทำงานของตำรวจ สน.ดุสิต

 

               นอกจากนี้จะตั้งคณะกรรมการระดับกองบัญชาการพิจารณาอีกชุด โดยมีรองผู้บัญชาการเป็นหัวหน้าคณะร่วมกับตำรวจอีกหลายนาย และจะเร่งทำงานให้เร็วตามกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนด หากทางญาติมีข้อสงสัยใด สามารถประสาน พ.ต.อ.อรรถวิทย์ รอง ผบก.น.1ได้ ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
             สำหรับการสั่งให้ ส.ต.อ.ธีรยุทธ จันทร์คง ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สน.ดุสิต ออกจากราชการนั้น ต้องดูจากพฤติกรรมที่เกี่ยวข้อง หากส่อว่าจะไปยุ่งเหยิงคดี หรือข่มขู่พยานทำให้คดีเสียหาย ทำให้เกิดความเสียหายกับราชการก็จะให้ออกจากราชการไว้ก่อนอย่างแน่นอน ในเบื้องต้นตอนนี้ให้พ้นจาก สน.ดุสิต ไปปฏิบัติหน้าที่อื่นที่ไม่สัมผัสกับประชาชนแล้ว

              ด้านนางจันทร์เพ็ญ กล่าวว่า ทางแม่อยากให้เปลี่ยนทีมสืบสวนสอบสวน และวันนี้ได้ความกระจ่างในคดีของน้องในทุกด้านแล้ว ต่อไปเป็นขั้นตอนของการไปคุยกันที่ศาล พร้อมยอมรับว่าก่อนหน้านี้อาจจะไม่ค่อยเข้าใจอะไรเกี่ยวกับเอกสาร และวันนี้แม่ได้ความกระจ่างจากสน.ดุสิตแล้ว อย่างไรก็ดี ยังยืนยันขอให้เปลี่ยนทีมสืบสวนอยู่ ซึ่งทางผู้ใหญ่ก็ยืนยันว่าจะให้ความช่วยเหลือในเรื่องนี้
Advertisement