ตร.ไล่ไทม์ไลน์พริตตี้วาวาก่อนดับ พบมีการเล่นยา ตี 4 ผู้ตายอ้วกเกร็ง จึงพาตัวไป รพ. เผยวงจรปิดถูกลบ เร่งกู้คืน แม่คนตายยันลูกไม่เล่นยา เชื่อต้องมีคนเอาให้ดื่ม อยากให้คนทำผิดได้รับโทษอย่างถึงที่สุด

         วันที่ 2 มีนาคม 64  ที่ สน.พหลโยธิน พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช.น.เข้าประชุมติดตามความคืบหน้าของคดีที่ น.ส.วิชญาพร วิเศษสมบัติ หรือพริตตี้สาววาวา ที่เสียชีวิตหลังรับงานเอนเตอร์เทนกับนายเก่ง ที่บ้านพักย่านเสนานิคม 1 ซอย 12 แยก 2 พร้อมสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุราว 1 ชั่วโมงครึ่ง จากนั้น พล.ต.ต.จิรพัฒน์ กล่าวว่า ขณะนี้เหลือสอบพยานอีก 6 คน ส่วนการสอบพยานก่อนหน้านี้ บางคนให้การเป็นประโยชน์ บางคนให้การคลุมเครือ
         เบื้องต้นเชื่อว่ามีการเสพยาเสพติดจริงในงาน ส่วนเรื่องการเสพยาเสพติด รายละเอียดยังอยู่ในสำนวน จากการสอบปากคำพยานระบุว่า ช่วงตี 4 ผู้ตายมีอาการอาเจียนหนัก แฟนสาวของผู้ชายที่ร่วมงานจึงพาขึ้นไปอาบน้ำและนอนพักที่ชั้น 4 ของบ้าน และคอยดูแลตลอดกระทั่งผู้ตายมีอาการเกร็ง เจ้าของบ้านกับเพื่อนชายอีกคนจึงอุ้มขึ้นรถพาไปส่งโรงพยาบาลทันที ในช่วง 06.00 น.โดยไม่ได้แวะที่อื่น และใช้เวลาเดินทางเพียง 5 นาที ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าผู้ตายได้ดื่มแอลกอฮอล์หรือไม่ ยังต้องรอผลการตรวจจากแพทย์อีกครั้ง
         จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดเบื้องต้นพบว่ามีการลบข้อมูลไปแล้ว ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานกลางกำลังกู้ภาพเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียด เพราะกล้องดังกล่าวอยู่บนชั้น 2 ของบ้านในตำแหน่งที่จัดงานปาร์ตี้ ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญในคดี อีกทั้งยังพบการจ้างบริษัททำความสะอาดเข้ามาทำความสะอาดบ้านทันทีหลังเกิดเหตุ
         รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้มีการสอบปากคำพยานบุคคลที่อยู่ในงานไปแล้ว รวมทั้งหมด 11 ปาก ในส่วนนี้เพิ่งเข้ามาเพิ่มในวันนี้ 3 คน และยังเหลือสอบปากคำพยานในงานที่เหลืออีก 6 คน แบ่งเป็นชาย 4 คน หญิง 2 คน
        ด้านน.ส.พรทิพย์ แก้วสุข อายุ 54 ปี แม่ของผู้ตายกล่าวว่า อยากให้ตำรวจรวบรวมหลักฐานทุกอย่าง เช่น กล้องวงจรปิด นำมาเปิดเผยให้กระจ่าง ตอนนี้ที่ตำรวจทยอยสอบปากคำพยานรวมถึงเจ้าของบ้านก็พอมีความหวังมากขึ้น หากทุกอย่างชัดเจนและจบเร็ว จะได้นำร่างลูกสาวไปฌาปนกิจโดยเร็ว ตนเชื่อว่ามันต้องมีเหตุให้เกิดขึ้น ยืนยันว่าลูกไม่ยุ่งเกี่ยวกับสารเสพติดตามที่ข่าวบอกว่าพบสารเสพติดแน่นอน แม้แต่กาแฟหรือแอลกอฮอล์ ลูกก็ไม่ดื่ม ต้องไปหาสาเหตุจากคนที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมด หากน้องดื่มเองก็สงสัยว่าใครนำไปให้ดื่ม หากใครเป็นคนดื่มก็ต้องรู้ลิมิตตัวเองอยู่แล้ว
         หลังลูกเสียชีวิตก็ไม่เคยมีใครในงานติดต่อเข้ามาเลย ตนไม่เคยรู้จักบรรดาพริตตี้ที่ไปรับงานกับลูกในงานอีกด้วย ตนไม่อยากเปรียบเทียบกับคดีพริตตี้ลัลลาเบล แต่ต้องการให้คดีถึงที่สุด คนทำผิดต้องได้รับโทษ ลูกตนต้องได้รับความยุติธรรม ตอนนี้หากพบกับผู้กำกับ ก็อยากทราบว่าจะคลี่คลายคดีได้อย่างไร
Advertisement