วันที่ 6 มีนาคม 64 พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.โฆษก บช.น.แถลงข่าวการเตรียมความพร้อมการรักษาความปลอดภัย และการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรในการชุมนุมของกลุ่มเห็นต่างทางการเมือง จากการข่าวไปรวมตัวกลุ่มต่างๆ แยกเกษตร กลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบันแยกปทุมวัน อาชีวะไม่เอาเผด็จการรวมตัวอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยย้ายไปที่กรมทหารราบที่ 11 รอ. แจ้งเตือนว่า กทม.เป็นพื้นที่ห้ามชุมนุมตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตาม พ.ร.บ.ความคุมโรค ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.215 ก่อความวุ่นวายผิดกฎหมายอาญามั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป กระทำการให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง การชุมนุมที่ผ่านมาตำรวจได้มีการดำเนินคดีไปแล้ว 22 ราย และคดีอื่นๆ รวม 158 คดี ส่งสำนวนพนักงานอัยการ 116 คดี อยู่ระหว่างสืบสวน 42 คดี มีบาดเจ็บตำรวจ 90 นายได้รับบาดเจ็บ ส่ง รพ.27 นาย เสียชีวิต 1 นาย ผู้โพสต์ชักชวน แกนนำจัดการชุมนุม ตลอดจนผู้เข้าร่วมชุมนุมมีความผิดตามกฎหมาย อาจจะได้รับโทษได้เช่นกัน
ทั้งนี้กำลังที่จัดเตรียมยืนยันว่าเตรียมไว้เพียงพอ ตลอดจนพฤติกรรมซึ่งช่วงหลังมีการใช้พลุเพลิง วัตถุติดไฟได้ง่าย และสร้างกระแสข่าวอย่างมีการใช้เครื่องพ่นควัน ทุบทำลายสิ่งของทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผบช.น. จัดกำลังเพียงพอ ส่วนการพักค้างแรม ม.เกษตรต้องขออนุญาตเจ้าของพื้นที่ ความรุนแรงไม่ได้เกิดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีการรื้อถอนเครื่องกีดขวาง เห็นชัดเจนผู้ชุมนุมมีเจตนาอย่างไร
ส่วนกรณีจัดวางเครื่องกีดขวางตู้คอนเทนเนอร์นั้น พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ยืนยันว่าสิ่งที่เกิดขึ้นครั้งก่อนหามาตรการป้องกัน การใช้อุปกรณ์ทั้งหมดเพื่อความปลอดภัยและยับยั้งอันตราย หากมีการละเมิดกฎหมายตำรวจก็จับกุมได้ทันที และพฤติกรรมยังไม่ก่อให้เกิดอันตรายอย่างร้ายแรงจะไม่บังคับใช้กฎหมายทันที เว้นแต่มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อความไม่สงบเรียบร้อย บุกรุกสถานที่ราชการ ทุบทำลายสิ่งของราชการหรือเอกชน ตำรวจจะปล่อยให้มีการกระทำดังกล่าวไม่ได้ เราใช้ ป.อาญา และจับกุมตาม ป.วิอาญา นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยกำชับการปฏิบัติ ผบ.ตร. ให้เน้นอดทนยึดมั่นในหลักการนิติรัฐนิติธรรม
ด้าน พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.กล่าวว่าคาดว่าชุมนุมใน 4 จุด งานด้านจราจรเตรียมแผนไว้ หลักการไม่ปิดการจราจร ยกเว้นกลุ่มผู้ชุมนุมปิดการจราจร จุดแรกก ขรมทม.ที่ 11 จะกระทบถนนพหลโยธิน แยกเกษตร ถนนแจ้งวัฒนะ วงเวียนบางเขน ถนนรามอินทรา หน้ากรมทหารถึงวงเวียน กลุ่มที่รวมตัวห้าแยกลาดพร้าวยังไม่ได้มีการกำหนดเส้นทางควรหลีกเลี่ยงถนนพหลโยธิน ถนนลาดพร้าว และรัชดาภิเษก เวลา 15.00 น.
บริเวณแยกราชประสงค์ หลีกเลี่ยงเส้นทางบริเวณแยกดังกล่าวเวลา 11.00 น.เป็นต้นไป จุดสุดท้ายบริเวณอนุสาวรีบ์ประชาธิปไตยน่าจะกระทบถนนราชดำเนินกลางและถนนดินสอ ควรหลีกเลี่ยงก่อนเวลา 15.00 น.
Advertisement