เมื่อวันที่ 18 เมษายน 64 ชาวชุมชนบางไผ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี ร้องเรียนต่อสื่อมวลชนหลังมีคนติดโควิดในพื้นที่แล้ว 7 คน แต่ที่ผ่านมาไม่มีหน่วยงานมาดูแลทั้งที่ก็อยู่ไม่ห่างจาก อบต. อสม. อนามัย จนต้องให้คนในชุมชนด้วยกันเองโพสท์เฟซบุ๊กร้องเรียน จนทางหน่วยงานนัดตรวจลงพื้นที่ชุมชนในวันรุ่งขึ้นทันที
คนในชุมชนเล่าว่า ชุมชนแห่งนี้มีการดูแล ช่วงโควิดระบาด 2 ระลอกนั้นไม่มีใครติดเชื้อเลย แต่ระลอกนี้เอาไม่อยู่ เมื่อวันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา มีคนในชุมชนติดโควิดคนแรก ก่อนกระจายลุกลามเป็น 7 คน ตอนนี้ผู้ป่วยโควิดทั้ง 6 คน ถูกนำตัวส่ง รพ.สนามหมดแล้ว เหลือผู้ป่วยรายที่ 7 ซึ่งเพิ่งทราบผล แยกกักตัวอยู่ในบ้าน
ทั้งนี้ชุมชนดังกล่าวมีผู้อาศัยหลักร้อยถึงหลักพัน เป็นชุมชนปลูกติดกันหลายหลัง เมื่อมีคนติดโควิด ทำให้หลายคนกลายเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงต้องกักตัวกันหมด โดยร้านอาหารหลายแห่งปิดตัวลง มีร้านก๋วยเตี๋ยวคนไปใช้บริการ ปรากฎว่าเจ้าของกับลูกติดโควิด ทำให้ไม่มีใครกล้าออกไปไหน ทุกอย่างเงียบกันมาก เพราะไม่มีคนมาบอกว่าต้องทำอย่างไร หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ไม่มาแจ้งคนในพื้นที่
คนในชุมชนระบายว่าตั้งแต่มีคนติดโควิด ก็ไม่มีใครมาดูแลมาสนใจเลย คนในชุมชนต้องขอน้ำยาฆ่าเชื้อ ยืมอุปกรณ์มาพ่นกันเอง โดยมีผู้สมัคร ส.ส.สอบตกพรรคหนึ่งมาลงพื้นที่ดูเท่านั้น เคยมีเจ้าหน้าที่ อสม.คนหนึ่งมาถามไถ่ชาวบ้าน แต่ก็โดนดึงตัวไปช่วยงานที่อำเภอในตอนนี้
ทั้งนี้พวกตนคิดว่าถ้าไม่ถ่ายคลิปถ่ายรูปโพสท์ลงเฟซบุ๊กก็คงไม่มีใครมาสนใจแน่ จึงตัดสินใจทำกัน ในที่สุดก็มีหน่วยงานประสานลงพื้นที่ตรงนี้ทันที ท่ามกลางความวังเวงของชุมชนที่ทุกคนต่างกลัวกันไปหมด “เขาทำเหมือนเราไม่ใช่คน ทีตอนหาเสียงเข้ามากัน แต่พอมีเรื่องกลับไม่มาดูเลย”
Advertisement