“ชัชชาติ” ผู้ว่า​ กทม.​ ลงพื้นที่ตรวจจุดเกิดเหตุ​ กระบะชนเสาไฟฟ้า​ บนถนนรัชดาภิเษก ขาเข้า ฝั่งตรงข้าม​ สำนักงานศาลยุติธรรม เสียชีวิต 5​ เตรียมพิจารณาประกาศจำกัดความเร็ว​ เชื่อการที่ประชาชนจะทำให้การขับขี่ระมัดระวังมากขึ้นโดยลดความเร็วลง พร้อมสั่งเดินหน้าแก้ไขจุดเสี่ยงอุบัติเหตุบนถนนทั่วกรุงเทพฯ

 

         ​ (3 มิ.ย.65)​ ที่บริเรณด้าหน้าพรรคพลังประชารัฐ​ ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุรถกระบะเสียหลักชนเสาไฟฟ้า​มีผู้เสียขีวิต​ รวม​ ถ5​ ราย​ บาดเจ็บ​ 2​ ราย​ เมื่อช่วงเข้าที่ผ่านมา​ รองศาสตราจารย์ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์​ ผู้ว่ากรุงเทพมหานคร​ ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจจุดเกิดเหตุ​พร้อมกล่าวว่า​ จากการตรวจสอบเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลว่า รถคันที่เกิดอุบัติเหตุขับมาด้วยความเร็วโดยมีเข็มไมล์ค้างอยู่ที่ 120 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง ประกอบกับบริเวณดังกล่าวเป็นช่วงขึ้นอุโมงค์เข้าทางโค้ง ซึ่งก่อนเกิดเหตุมีฝนตกลงมาทำให้ผิวการจราจรลื่น เมื่อรถขับขับมาด้วยความเร็วจึงทำให้เกิดอุบัติเหตุโดยไม่มีคู่กรณี จากนี้ต้องไปดูข้อกฎหมายเกี่ยวกับผู้โดยสารที่นั่งกระบะหลัง ซึ่งจะทำให้เกิดความเสี่ยงอันตรายต่อชีวิตสูงหากเกิดอุบัติเหตุ เช่นเดียวกับกรณีที่เกิดขึ้น และจากการสิบถามตำรวจ บอกว่า การนั่งกระบะหลังถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย หากรถกระบะไม่มีหลังคา

          ทั้งนี้​ ตนมองว่าอุบัติเหตุครั้งนี้และหลายครั้งที่ผ่านมา เกิดจากหลายสาเหตุ เช่น ลักษณะทางกายภาพของถนน พื้นผิวการจราจร รวมทั้งผู้ขับขี่ใช้ความเร็ว ส่วนที่มองว่าเป็นโค้งอาถรรพ์หรือไม่ นายชัชชาติ ระบุว่า ถือเป็นความเชื่อและเป็นมุมมองที่ดีของประชาชน เพราะจะทำให้เกิดการตระหนักลดการใช้ความเร็วลง ซึ่งทั้งหมดต้องมาร่วมกันแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะในจุดเกิดเหตุฝั่งตรงข้ามศาลอาญาถนนรัชดามักมีอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ดังนั้น กรุงเทพมหานคร อาจจะมีการประกาศให้เป็นเขตจำกัดความเร็วไม่เกิน 120 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง หรืออาจจำกัดลงให้น้อยกว่าเดิม เช่น ไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งต้องนำไปพิจารณาอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมจะหยิบยกจุดเกิดเหตุบนถนนในจุดอื่นๆทั่วกรุงเทพ มาพิจารณาวางแนวทางแก้ไข ลดปัญหาที่ไม่เพียงอุบัติเหตุแต่รวมถึงน้ำท่วมและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ให้สามารถแสดงข้อมูลเป็นลักษณะแผนที่ได้เหมือนระบบทราฟฟี่ฟองดูว จึงจะเห็นว่าจุดไหนเกิดเหตุซ้ำซาก

             นอกจากนี้นายชัชชาติ ระบุว่า ถึงแม้การเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนจะได้รับการแก้ไขเรื่องลักษณะทางกายภาพ แต่ก็ต้องขอความร่วมมือประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน ให้ระมัดระวังเรื่องของความเร็วตามกฎหมายกำหนด หรือชะลอความเร็วลงหากพบว่าบนถนนมีความเสี่ยงจะเกิดอันตราย เช่น กรณีฝนตก หรือในจุดนั้นมักเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง

Advertisement