เมื่อวันที่ 12 เมษายน 64 ที่บ้านพักเลขที่ 183 ถนนวิเศษกุล ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง บ้านของนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา วันนี้ได้เปิดบ้านเพื่อต้อนรับประชาชนที่เดินทางเข้าพบ เพื่ออวยพรปีใหม่เนื่องในวันสงกรานต์หรือวันขึ้นปีใหม่ไทย ตามธรรมเนียมปฎิบัติเหมือนเช่นทุกปีที่ผ่านมา โดยมีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าปีนี้จะมีประชาชนน้อยกว่าทุกปี อันเนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ก็ตาม
นายชวน กล่าวว่า ปีใหม่ไทยปีนี้อยู่ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ทำให้รู้สึกเห็นใจประชาชนที่ไม่มีโอกาสได้ใช้โอกาสนี้เหมือนอย่างที่เคยใช้ในปีก่อน ๆ แต่ก็เห็นควรอย่างยิ่งว่าทุกคนควรระมัดระวัง ปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข ขอถือโอกาสปีใหม่ไทยปีนี้ขอให้ทุกคนปลอดภัยจากโรคติดต่อนี้และโรคอื่น ๆ และหวังว่าเมื่อสถานการณ์ผ่อนคลาย แต่คิดว่าโควิด-19 คงจะอยู่กับเราไปอีกนานพอสมควร เราจึงต้องเผชิญหน้ากับโรคนี้โดยไม่ต้องหนี แม้ว่าจะมีโรคนี้อยู่แต่เราไม่ประมาทและปฏิบัติภารกิจตามปกติ งานก็ไม่หยุดนิ่งก็อาจไม่เสี่ยงกับโรคภัยไข้เจ็บและขอให้ประสบกับความสำเร็จในภารกิจ แม้จะมีวิกฤติภายใต้เงื่อนไขของโรคติดต่อที่ระบาดอยู่ทั่วโลกในขณะนี้
ส่วนคำถามที่ว่าสถานการณ์โควิดยังมีแนวโน้มระบาดเพิ่มมากขึ้น รู้สึกเป็นห่วงหรือไม่ อย่างไร นายชวนตอบว่า ตนก็รู้สึกเป็นห่วงและติดตามอยู่ว่าแต่ละที่เป็นอย่างไร ส่วนตนคิดว่าอย่าปิดประเทศ อย่าปิดเมือง แต่ให้เข้มงวดในการตรวจสอบ เพราะถ้าปิดเมือง ปิดจังหวัด จะทำให้ธุรกิจมีปัญหาและทำให้รายได้ของประเทศมีปัญหาหนักขึ้นกว่าเดิม เพราะเมื่อธุรกิจไม่เคลื่อนไหว ไม่มีเงินเสียภาษี ภาระจะตกหนักกับรัฐบาลเพราะไม่รู้จะเอาเงินใช้จ่ายมาจากไหน เพราะฉะนั้น เมื่อเราได้ประสบการณ์เรียนรู้มาจากตัวเราเองและประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกว่ากรณีที่เกิดสถานการณ์เช่นนี้ ความไม่ประมาทเป็นสิ่งสำคัญ แต่ไม่ถึงขนาดที่หนีปัญหา เช่นปิดธุรกิจ ปิดการดำเนินชีวิตตามปกติทุกอย่าง ซึ่งผลที่ตามมาอาจจะหนักกว่าโควิด-19 ก็เป็นได้
ส่วนข้อถามที่ว่าในรัฐสภามีความเป็นห่วงคณะรัฐมนตรีจะติดโควิดเพิ่มขึ้นหรือไม่ ซึ่งนายชวนตอบว่า ในกลุ่ม ส.ส. มีความเข้มงวดมาตลอด ใครไม่มีหน้ากากติดมาก็ให้กลับไปเลย และสั่งด้วยว่าไม่ให้แจกหน้ากากเพราะทำให้คนประมาท ส่วนภายในก็ได้ทำความสะอาด เว้นระยะห่างของการนั่งของ ส.ส. ก็มีการเตือน ในสภาก็เหมือนที่อื่น บางทีสมาชิกก็ประมาท แต่เมื่อเหตุการณ์รุนแรงขึ้น ทุกคนก็มีความระวังมากขึ้น ส่วนข้าราชการยังไม่มีใครติด แต่มีนักการเมืองที่มีข่าวว่า ส.ส. ติด 1-2 คน แต่ขณะนี้โรงพยาบาลบำราศนราดูรก็จะฉีดวัคซีนให้กับนักการเมืองที่แสดงความจำนงด้วยความสมัครใจประมาณ 200 กว่าคน ซึ่งจะเริ่มฉีดในวันที่ 16-30 เมษายนนี้
ในส่วนของวุฒิสภาก็เช่นเดียวกัน สำหรับผู้ที่มีความประสงค์ก็สามารถติดต่อได้ ส่วนที่ฉีดไปแล้วก็มีเพียงกลุ่มหนึ่งที่ใกล้ชิดกับวงการหมอ ในวงการที่ใกล้ชิดและเป็นเพื่อนฝูงกันแต่ไม่กี่คน ส่วนใหญ่ก็ยังไม่ฉีด อันนี้ท่านประธานวุฒิสภาก็เล่าให้ฟังว่าวุฒิสภาไม่ได้ทำอะไรอย่างที่เป็นข่าวที่สงสัยกันว่าทำไมวุฒิสภาฉีดได้ ส.ส. ฉีดไม่ได้ อันนี้ก็ไม่จริง
ทางรัฐมนตรีสาธารณสุขแลเรองนายกรัฐมนตรีก็ได้โทรศัพท์ถึงตนโดยตรงโดยให้วุฒิสภาแสดงความจำนง และนัดวันไว้แล้วคือวันที่ 16-30 เมษายนนี้ จึงไปฉีดกันได้และมองว่าทุกคนก็มีความเสี่ยง ไม่เฉพาะผู้แทนราษฎรเท่านั้น คนอื่นก็เสี่ยงเหมือนกัน เพราะฉะนั้นเวลาจะไปเรียกร้องทำอะไรให้เหนือกว่าคนอื่น มันไม่สมควรทำ มันจะกลายเป็นการเอาเปรียบชาวบ้าน ซึ่งตนเองก็ยังไม่ได้ฉีด เพราะตราบเท่าที่เพื่อนผู้แทนยังไม่ได้ฉีด ตนก็ยังไม่ฉีดเหมือนกัน เพื่อไม่ให้เป็นการเอาเปรียบกัน
Advertisement