จบด้วยดี เจ๊ไฝไม่เอาเรื่องป๋าอ้างเป็นสารวัตรแซงคิวกินฟรี เพราะเป็นคนไทยด้วยกัน ส่วนเจ้าตัวอ้างไม่ได้ตั้งใจชักดาบแต่เพราะลืมจะรีบไปเอารถ ยืนยันไม่ได้แอบอ้างเป็นตำรวจแต่เกิดจากความเข้าใจผิด 

ตำรวจชุดสืบสวน สน.สำราญราษฎร์ เชิญตัวชายที่ปรากฏในภาพวงจรปิดซึ่งถูกระบุใน instagram ของเจ๊ไฝร้านมิชลินสตาร์ชื่อดังย่านประตูผี ว่าแอบอ้างเป็นสารวัตรขอลัดคิวกินฟรี มาสอบปากคำที่สน.สำราญราษฎร์ หลังพิสูจน์ทราบตัวบุคคลจนทราบว่าชายคนดังกล่าวเป็นอดีตข้าราชการท้องถิ่นเกษียณอายุ โดยสามารถไปเชิญตัวมาได้จากในพื้นที่ใกล้เคียง ทั้งนี้ในระหว่างการเชิญตัวมาที่สนพบว่าเจ้าตัวสวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อน และใส่กางเกงสแล็ครองเท้าคัทชูคล้ายกับบุคคลที่ปรากฏตามภาพวงจรปิด ทั้งนี้เจ้าตัวไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆกับสื่อมวลชนและเดินขึ้นห้องสืบสวนมาทันที โดยมีสีหน้าเรียบเฉย

จากนั้นตำรวจได้เชิญตัวไปสอบปากคำภายในห้องประชุมของสถานีตำรวจประมาณเกือบ 30 นาที ก่อนที่จะนำตัวชายคนดังกล่าวไปที่ร้านเจ๊ไฝย่านประตูผี เพื่อทำการสอบถามเจ๊ไฝว่าจะติดใจเอาความทางคดีอาญากับชายคนดังกล่าวหรือไม่ เมื่อไปถึงชายคนดังกล่าวได้ยกมือไหว้ขอโทษเจ๊ไฝว่าไม่ได้ตั้งใจจะชักดาบ และได้จ่ายเงินค่าอาหารมื้อดังกล่าวให้กับเจ๊ไฝ พร้อมทั้งยังออกปากชมด้วยว่ากระเพราเนื้อของเจ๊ไฝอร่อยมาก แล้วเปิดเผยว่า ตนเองไม่ได้แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจตามที่มีการโพสต์ลงใน instagram แต่เชื่อว่าเป็นความเข้าใจผิดของลูกสาวเจ๊ไฝ หรืออาจเป็นโต๊ะข้างๆ ที่ได้ยินข้อมูลการสนทนา ยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจจะไม่จ่ายค่าอาหารแต่ตนเองมีปัญหาเรื่องความจำ และอ้างว่าจะต้องรีบออกไปเอารถที่ทำกระจกไว้ในบริเวณใกล้เคียง ก่อนที่จะนึกได้ว่าลืมจ่ายค่าอาหาร จึงตั้งใจว่าจะกลับมาที่ร้านและจ่ายเงินในวันรุ่งขึ้น แต่ปรากฏว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกลายเป็นข่าวตามสื่อต่างๆเสียก่อน จึงพยายามติดต่อเข้ามาที่สนสำราญราษฎร์ให้มารับตัว ยืนยันว่าไม่เคยก่อเหตุลักษณะแบบนี้ที่ร้านอื่นมาก่อน

ด้านเจ๊ไฝ เปิดเผยว่า ไม่ติดใจเอาความทางคดีกับชายคนดังกล่าว ให้เลิกแล้วต่อกัน เพราะเป็นคนไทยด้วยกันจึงไม่อยากเอาเรื่อง ที่ผ่านมาเคยมีลูกค้าชาวต่างชาติมากินอาหารและไม่จ่ายเงินแต่ก็ติดต่อไปทางโรงแรมให้มาจ่ายเงินและไม่ได้ติดใจเอาความกับใคร แต่ไม่เคยมีคนไทยทำแบบนี้มาก่อน ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตกใจ และได้เฉ่ง(ต่อว่า)ลูกสาวที่ไม่ยอมเล่าเหตุการณ์ให้ฟังตั้งแต่ต้น จนทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่โต จากนี้จะให้ที่ร้านเพิ่มความเข้มงวดในการเก็บเงินลูกค้ามากขึ้น และได้ขอบคุณผู้กำกับการ สน. สำราญราษฎร์ที่ช่วยติดตามเรื่องดังกล่าวให้ทันที

ด้านพันตำรวจเอก ทศพล อําไพพิพัฒน์กุล ผู้กำกับการ สน. สำราญราษฎร์ เปิดเผยว่า เรื่องนี้ถือว่าไม่เป็นคดีความเพราะตัวเจ๊ไฝไม่ติดใจเอาเรื่อง แต่จะมีการตรวจสอบต่อไปว่าชายคนดังกล่าวเคยก่อเหตุในลักษณะแบบนี้มาก่อนหรือไม่

ส่วนกรณีที่มีการแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อกฎหมายว่าจะเข้าข่ายหรือไม่เพราะในระหว่างเกิดเหตุเจ้าตัวไม่ได้มีการแต่งเครื่องแบบตำรวจหรือแสดงบัตรเอกสารว่าเป็นเจ้าพนักงานตำรวจจึงอาจไม่เข้าข่ายที่จะดำเนินคดีได้ แต่หากพบว่าเข้าข่ายความผิดในข้อหาใดก็จะดำเนินการในภายหลัง

Advertisement