คุม 2 โจรชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อทำแผน ปฏิเสธตอบคำถามสื่อ

        วันที่ 20 เมษายน 64 ตำรวจคุมตัวนายปรัชญา ดิษฐจู อายุ 20 ปี และนายชานนท์ สรเพ็ชร อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อคืนวันที่ 17 เมษายนมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพหลังกวาดเงินสดไปได้ 17,675 บาท บุหรี่ 22 ซองก่อนขับ จยย.หลบหนี
        โดยจุดแรกคือบริเวณร้านสะดวกซื้อ ตั้งอยู่ระหว่างซอยสามวา 7-9 เริ่มตั้งแต่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อที่จอดรถจักรยายนต์ที่ใช้ก่อเหตุ จากนั้นทั้งคู่ได้เดินเข้าไปในร้านพร้อมด้วยอาวุธมีดและปืน เพื่อใช้ข่มขู่พนักงงานให้ช่วยเปิดเก๊ะเงินจำนวน 2 เก๊ะ กวาดเงินไปได้ 17,675 บาท หลังจากนั้นได้หันหลังไปหยิบบุหรี่ที่อยู่ในตู้ด้านหลังอีก 22 ซอง ก่อนจะรื้อค้น และออกจากร้าน โดยใช้พนักงานเดินนำหน้าเพื่อบังกล้องวงจรปิดที่หน้าร้าน และเพื่อป้องกันไม่ให้พนักงานโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
          ภายหลังจากการทำแผนประกอบคำรับสารภาพในจุดแรก เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพอีก 3 จุด โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงสาเหตุในการก่อเหตุและระยะการวางแผนในการก่อเหตุ แต่ผู้ต้องหาปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ ก่อนจะเดินหลบขึ้นรถตู้ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
         ด้าน พ.ต.อ.สุรพล ก้อมน้อย ผกก.สน.มีนบุรี กล่าวว่า สำหรับการทำแผนประกอบคำรับสารภาพวันนี้วางไว้จำนวน 4 จุด จุดแรกคือจุดที่ผู้ต้องหาเข้ามาชิงทรัพย์ในร้านสะดวกซื้อ จุดที่ 2 ห้างสรรพสินค้าตรงข้ามแยกสวนสยาม ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ต้องหานำรถ จยย.ของกลางไปทิ้งไว้ก่อนหลบหนี ส่วนอีก 2 จุด คือเส้นทางก่อนก่อเหตุและหลังก่อเหตุ ซึ่งการจับกุมในครั้งนี้หลังเกิดเหตุฝ่ายสืบสวนได้ลงพื้นที่ ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเส้นทางการหลบหนีของคนร้ายจนสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด

         ภายหลังการถูกจับกุมผู้ต้องหาให้การว่าเหตุผลที่เข้าก่อเหตุในร้านนี้เพราะไม่ค่อยมีคน และพนักงานเป็นผู้หญิง ประกอบกับทั้งคู่เป็นคนในย่านนี้จึงรู้เส้นทางเป็นอย่างดี ส่วนที่หลายคนมองว่าเป็นการวางแผนมาก่อเหตุหรือไม่นั้นเพราะมีการขับรถอ้อมไป-มาทั้งก่อนและหลังก่อเหตุ ตนมองว่าน่าจะเป็นลักษณะของการก่อเหตุเลย เพราะลักษณะคล้ายกับตระเวนดูร้านที่เหมาะกับการก่อเหตุ ประกอบกับทั้งคู่เป็นคนในละแวกนี้จึงรู้เส้นทางหลบหนีที่ไล่เป็นอย่างดี ส่วนปืนที่ผู้ต้องหาอ้างว่าได้โยนทิ้งจากการสอบปากคำภายหลังก่อเหตุ ผู้ต้องหาได้นำรถจักรยานยนต์ไปจอดทิ้งไว้ที่ห้างสรรพสินค้าอยู่ตรงข้ามแยกสวนสยาม
        จากนั้นทั้งคู่ได้นั่งรถแท็กซี่กลับที่พัก พร้อมโทรศัพท์ให้เพื่อนอีกคนไปเอารถจักรยานยนต์ออกมาจากอเวนิว ภายหลังจากกลับบ้าน คนร้ายได้อ้างว่าในช่วงเช้าวันเดียวกัน ได้ขับรถออกมาเพื่อนำอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุออกไปทิ้ง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่สืบสวนกำลังติดตามหาของกลางอยู่
Advertisement