คุมตัวมือฆ่าครูมวยฝากขัง เผยนัดเคลียร์เลิกแต่ถูกปลุกปล้ำต้องสู้ พบฝ่ายหญิงบอกเลิกเพราะตั้งท้อง

          วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 64 ตำรวจ สน.ประเวศ คุมตัว น.ส.พลอยไพลิน คุณานุกรกุล อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาฆ่าปาดคอนายวิชาญ มะลิทอง อายุ 46 ปี ครูมวยและเจ้าของค่ายมวยราม 2 ไปฝากขังศาลอาญาพระโขนงผลัดแรกเป็นเวลา 12 วัน โดยตำรวจได้คัดค้านการประกันตัวเนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ ซึ่งระหว่างการนำตัวขึ้นรถคุมขัง ผู้ต้องหาไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน

           ทาง พ.ต.ท.ชรินทร์ อิ่มเอม รองผู้กำกับการสอบสวน สน.ประเวศ ยืนยันจากการสอบปากคำผู้ต้องหา พบขณะเกิดเหตุผู้ตายได้นัดให้มาเจอยังที่จุดเกิดเหตุ เพื่อเคลียร์ปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ หลังฝ่ายหญิงต้องการจะเลิกรากับฝ่ายชาย ซึ่งระหว่างการเคลียร์ปัญหาภายในรถ ฝ่ายชายพยายามจะล่วงละเมิดทางเพศฝ่ายหญิงด้วยการถอดเสื้อผ้า และพยายามปลุกปล้ำ โดยใช้กำลัง จนฝ่ายหญิงพยายามดิ้นรน หวังเอาชีวิตรอด ขณะนั้นฝ่ายหญิงได้คลำเจอมีดที่อยู่ภายในรถจึงเอามาปาดคอผู้ตาย ทำให้ผู้ตายตกใจ รีบใส่เสื้อผ้าก่อนวิ่งหนีตายลงจากรถ

          ขณะนั้นฝ่ายหญิงได้นำเสื้อผ้ามาสวมใส่ และลงมาจากรถ กระทั่งเจอนายวิชาญนอนอยู่ข้างรถ ผู้ก่อเหตุจึงไปหยิบกระเป๋า โทรศัพท์ของผู้ตายที่บริเวณคอนโซลหน้ารถ และมีดที่ใช้ก่อเหตุ จากนั้นนำมีดปักลงไปที่พงหญ้าข้างทางและทำลายโทรศัพท์โยนทิ้งลงไปที่พงหญ้าข้างทางใกล้ที่เกิดเหตุ เพราะผู้ตายเคยอ้างว่าในโทรศัพท์มีคลิปลับที่ทั้งคู่มีความสัมพันธ์กัน

          ที่ผ่านมา เวลาที่ผ่ายหญิงต้องการเลิกรา ฝ่ายชายจะข่มขู่ว่าหากเลิกเมื่อไหร่ก็จะนำคลิปไปเผยแพร่ หลังจากนั้นผู้ก่อเหตุได้นั่งตั้งสติข้างรถประมาณ 15 นาที ก่อนโทรหาแฟนหนุ่มให้มารับ โดยนายโอ๊ตได้ขับรถยนต์มารับออกจากที่เกิดเหตุระหว่างที่นั่งในรถ นายโอ๊ตได้มีการถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น เมื่อผู้ต้องหาเล่าเรื่องราวให้ฟัง นายโอ๊ตจึงพาผู้ก่อเหตุขับรถมาจอดที่หน้าสน.ประเวศ ราว 53 นาที เพื่อตัดสินใจจะเข้ามอบตัวหรือไม่
แต่สุดท้ายผู้ต้องหาไม่ยอมมอบตัว นายโอ๊ตจึงพาผู้ต้องหาหลบหนี จากการตรวจสอบรถคันเกิดเหตุพบผ้าดำขนาดใหญ่ขึงอยู่ที่กระจกด้านหลัง คล้ายกับการเตรียมการมาเพื่อมีความสัมพันธ์กับผู้ต้องหา และป้องกันไม่ให้คนภายนอกเห็น
ในส่วนของคดี จะมีการเชิญนายโอ๊ต เพื่อนสนิทของผู้ต้องหามาสอบปากคำว่าขณะที่นายโอ๊ตไปรับผู้ต้องหาออกจากที่เกิดเหตุนั้น นายโอ๊ตรู้เรื่องที่เกิดขึ้นมาก่อนหรือไม่ แต่หากภายใน 7 วัน นายโอ๊ตไม่เข้ามาพบพนักงานสอบสวน จะมีการออกหมายเรียก ส่วนจะออกหมายจับได้หรือไม่นั้นต้องดูพฤติการณ์ความเชื่อมโยง ถ้าหากนายโอ๊ตรู้เรื่องราวก่อนเกิดเหตุ ก็จะเข้าข่ายความผิดที่ออกหมายจับได้

           มีรายงานข่าวแจ้งว่า สาเหตุที่ผู้ต้องหาต้องการยุติความสัมพันธ์กับผู้ตาย เนื่องจากผู้ต้องหาตั้งครรภ์