คาร์ม็อบปิดถนนวิภาวดี ชุมนุมไล่ประยุทธ์ ก่อนปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ยิงกระสุนยาง แก๊สน้ำตา สลายการชุมนุม

         เมื่อวันที่ 1 ส.ค.64 ที่ บริเวณด้านหน้ากรมทหารราบ​ พัน 1 รอ. ถนนวิภาวดีรังสิตขาออก ได้มีกลุ่มมวลชนต่างๆนัดหมายรวมกลุ่มทำกิจกรรมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ทางการเมือง ประกอบด้วย กลุ่มไทยไม่ทน กลุ่มคณะ​ราษฎร​ กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม​ กลุ่มคาร์ม็อบสมบัติทัวร์​ เพื่อเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แสดงความรับผิดชอบจากการบริหารงานล้มเหลวในการควบคุมการแพร่ระบาดของ covid 19 บริเวณด้านหน้ากรมทหารราบที่ 1​ ด้วยการลาออกจากตำแหน่ง

          โดยยึดถนนวิภาวดีตั้งแต่บริเวณด้านหน้าโรงพยาบาลทหารผ่านศึกตลอดแนวจนถึงปั๊มน้ำมัน ปตท.มีการใช้เครื่องขยายเสียง ปราศรัยให้นายกรัฐมนตรีมีความเป็นผู้นำและขอให้เจ้าหน้าที่ทหารตำรวจหยุดรับใช้รัฐบาล
            กระทั่งเวลาประมาณ 17.50 น. ที่บริเวณด้านหน้าโรงพยาบาลทหารผ่านศึก ถนนวิภาวดี -รังสิตขาออก เหตุการณ์เริ่มบานปลายขึ้น เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ กับกลุ่มมวลชนวัยรุ่น เกิดการปะทะกันขึ้น ทางเจ้าหน้าทีตำรวจชุดควบคุมฝูงชน จึงต้องกดดัน โดยการใช้รถเครื่องขยายเสียง ประกาศขอให้ผู้ชุมนุม ยุติการชุมนุมและออกจากพื้นที่เพื่อคืนพื้นผิว การจราจร ให้ประชาชน ใช้สัญจรตามปกติ แต่เมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ยินยอม จึงนำรถฉีดน้ำแรงดันสูง ออกมา และฉีดน้ำใส่ผู้ชุมนุม เพื่อผลักดันผู้ชุมนุมให้ถอยร่นออกจากพื้นที่ โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาทีจึงจะสามารถควบคุมสถานการณ์ในพื้นที่ดังกล่าวไว้ได้
           ต่อมาเวลา 19.00 น. ที่ บริเวณแยกสามเหลี่ยมดินแดง ได้เกิดการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับกลุ่มผู้ชุมนุมคาร์ม็อบบางส่วน ที่ยังไม่เดินทางกลับหลังมีการประกาศยุติการชุมนุมไปแล้ว โดยมีการขว้างปาสิ่งของใส่กัน ก่อนทางเจ้าหน้าที่จะตัดสินใจยิงแก๊สน้ำตา และกระสุนยาง เพื่อสกัดผู้ชุมนุมอยู่เป็นระยะเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีเสียงคล้ายเสียงปืนและระเบิดเกิดขึ้นหลายครั้งในพื้นที่เกิดเหตุ ก่อนที่กลุ่มมวลชนจะถอยร่นออกมาจากบริเวณที่เกิดการปะทะ เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ได้ยิงแก๊สน้ำตาอย่างต่อเนื่อง ก่อนสถานการณ์จะเริ่มคลี่คลายเมื่อมวลชนบางส่วนเริ่มทยอยเดินทางกลับบ้าน

Advertisement