“กัน จอมพลัง” พาพี่ชายหนุ่ม รปภ. พบตำรวจ หลังน้องชายถูกภรรยาทำร้ายร่างกายเสียชีวิต

         (26 ต.ค.) ที่สน.พหลโยธิน นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” ได้พานายยอด ทะชัยวงค์ อายุ 43 ปี พี่ชายของนายโชคชัย ทะชัยวงค์ อายุ 42 ปี (ผู้เสียชีวิต) เข้ามาพบพนักงานสอบสวนเพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีกรณีที่ถูกนางสาววงเดือน รักษาสัตย์ อายุ 50 ปี ภรรยาทำร้ายจนเสียชีวิต

         โดยพี่ชายของผู้เสียหาย เล่าว่า ผู้เสียหายพักอาศัยอยู่กับผู้ก่อเหตุ ซึ่งถูกทำร้ายร่างกายมาโดยตลอด จนกระทั่งเมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา ผู้เสียหายถูกทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัส โดยมีเพื่อนร่วมงานไปพบ จึงนำส่งโรงพยาบาล ต้องอยู่ในห้องไอซียู และมาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา

         ซึ่งครั้งล่าสุด ผู้ก่อเหตุได้ทำร้ายผู้เสียหายแล้วลากร่างไปขังในห้องน้ำ นอนจมกองเลือด หลังก่อเหตุก็แต่งตัวออกไปทำงานปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนกระทั่งตอนเช้ารถบริษัทมารับยังที่พัก เผื่อไปส่งในสถานที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ แต่เพื่อนร่วมงานเห็นผิดสังเกตุจึงงัดห้องพักเข้าไปดู ก็พบว่าอยู่ในสภาพที่บาดเจ็บสาหัส ถึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล

         “ที่ผ่านมา น้องชายถูกฝ่ายหญิงกระทำทารุณกรรมมาโดยตลอด เช่น เอามีดกรีดแขน ใช้สากตีศีรษะ ทำร้ายจนซี่โครงหัก ใช้มีดฟันแขน เนื่องจากฝ่ายหญิงมีอารมณ์รุนแรง ส่วนผู้เสียหายมีอาชีพเป็น รปภ. ฝ่ายหญิงก็จะยึดเงินเดือนทั้งหมด ล่าสุดยังถูดบังคับให้นำรถจักรยานยนต์ไปเข้าไฟแนนซ์ เพื่อกู้เงิน 30,000 บาท เพิ่งผ่อนชำระได้งวดเดียวก็มาถูกทำร้ายเสียชีวิต โดยฝ่ายหญิงไม่ได้มาเยี่ยมแม่เลยหลังเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล และไม่ได้ไปร่วมงานศพเลยแม้แต่วันเดียว หลังจัดงานศพแล้วเสร็จ จึงมาร้องขอความช่วยเหลือเพื่อติดตามความคืบหน้าคดี” พี่ชา กล่าว

        ด้านกัน จอมพลัง เปิดเผยว่า เป็นกรณีแรกที่ตนเองได้ช่วยเหลือ เพราะที่ผ่านมาเคยเจอแต่ผู้ชายทำร้ายผู้หญิง แต่พอทราบเรื่องราวความเป็นมาก็ต้องยอมรับว่ามีความสลดใจอย่างมาก ที่ฝ่ายชายกลับเป็นผู้ถูกฝ่ายหญิงกระทำทารุณ เพราะความรักจึงยอมทุกอย่าง

         ด้านพันตำรวจเอก ชิศณุพงศ์ สุริยานนท์ ผู้กำกับการ สน.พหลโยธิน เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนได้รับคดีไว้แล้ว อยู่ระหว่างสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน เนื่องจากต่างฝ่ายต่างอ้างว่าถูกทำร้ายด้วยกันทั้งคู่ และผลการตรวจชัณสูตรศพจากแพทย์นิติเวช ไม่ได้ทำคดีล่าช้าแต่อย่างใด โดยจะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย หลังเกิดเหตุทางผู้ถูกกล่าวหาได้มามอบตัวกับพนักงานสอบสวนแล้ว เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย กับผู้ก่อเหตุแล้ว ก่อนปล่อยตัวไปโดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์

        ต่อมานายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พาพี่ชายผู้เสียชีวิต ไปดูห้องเช่าที่เกิดเหตุ ภายในซอยลาดพร้าว 1 แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ซึ่งพบว่าภายในห้องยังมีร่องรอยคราบเลือดอยู่ โดยชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงเล่าให้ฟังว่า ผู้เสียหายเป็นคนมีน้ำใจ แต่ฝ่ายภรรยาจะเอาแต่เงินอย่างเดียว อีกทั้งเป็นคนอารมณ์รุนแรง ชอบทำร้าย และไล่ให้ผู้เสียหายออกไปนอนนอกห้องอยู่เป็นประจำ อีกทั้งยังเคยบอกเคยเตือนฝ่ายชายว่าให้เลิกราจากผู้หญิงคนนึงเสีย จะทนไปเพื่ออะไร จนแล้วจนรอดจนมาถึงวันเกิดเหตุครั้งล่าสุด ไม่คิดว่าครั้งนี้จะรุนแรงถึงชีวิต หลังจากเกิดเรื่องก็ไม่เห็นตัวฝ่ายหญิงอีกเลย ทราบข่าวเพียงว่ากลับไปอยู่ที่บ้านในจังหวัดอำนาจเจริญแล้ว