(10 ก.ย.) นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” เดินทางเข้าให้ความช่วยเหลือเด็กหญิงอายุ 4 ขวบ และ 12 ขวบ ในซอยพหลโยธิน 48 แยก 11 หลังจากได้รับแจ้งจากสมาชิกสภากรุงเทพมหานครเขตบางเขน ว่ามีชาวบ้านภายในซอยให้ความช่วยเหลือเด็กหญิงทั้งสองคนโดยพบว่าตามตัวของเด็กหญิงอายุ 12 ขวบ มีบาดแผลจากไฟไหม้ตามร่างกายหลายจุด และเด็กหญิงอายุ 4 ขวบ ถูกจับแช่น้ำจนผิวหนังเปื่อยยุ่ย อยู่ภายในห้องเช่าที่จุดดังกล่าว กันจอมพลังพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พม. และตำรวจสนบางเขนจึงเดินทางเข้าไปตรวจสอบเหตุดังกล่าว
ภายในที่เกิดเหตุพบเด็กหญิงทั้งสองคนอยู่ที่ใต้อาคารห้องเช่า โดยมีชาวบ้านช่วยดูแลไว้ในเบื้องต้น โดยพบว่ามีบาดแผลตามที่ชาวบ้านแจ้งมาตามตัวหลายจุด แต่ไม่สามารถระบุชี้ชัดได้ว่าเกิดขึ้นจากอะไร เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ พม. และตำรวจ สน.บางเขนจึงขอนำตัวเด็กหญิงทั้งสองคนไปที่สถานีตำรวจเพื่อทำการสอบปากคำกับสหวิชาชีพและพิจารณานำไปอยู่ที่บ้านพักเพื่อดูแลและสอบทานข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด
ทีมข่าวได้พูดคุยกับผู้แจ้งเหตุดังกล่าวซึ่งพักอาศัยอยู่ภายในห้องเช่าเดียวกัน เล่าว่าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาพบเด็กหญิงคนดังกล่าววิ่งไปมาอยู่ภายในชั้นจนไม่สามารถพักผ่อนได้ จึงออกมาสอบถามเด็กหญิงคนดังกล่าวก็เข้ามาขอความช่วยเหลือว่าถูกพ่อแม่กักขังไว้ภายในห้องและถูกพ่อแม่ทำร้ายร่างกาย ตนเองและน้องสาวจึงตามเข้าไปช่วยเหลือ พบเด็กหญิงอายุ 4 ขวบถูกจับแช่น้ำไว้ตามข้อมูลข้างต้น จึงตัดสินใจแจ้งให้ชาวบ้านเข้ามาช่วยเหลือและแจ้ง สก.เขตบางเขนให้เข้ามาตรวจสอบ
โดยก่อนหน้านี้พบว่าเด็กหญิงคนดังกล่าวเคยวิ่งเล่นไปมาอยู่ภายในอพาร์ทเม้นท์บ่อยครั้งภายในอพาร์ทเม้นท์แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจ ทั้งนี้จากการสังเกตของตนเองพบว่าเด็กหญิงมีบาดแผลถูกทำร้ายตามร่างกายหลายจุด และมีร่องรอยบาดแผลบางจุด ซึ่งตนเองเชื่อว่าเด็กหญิงไม่น่าจะสามารถทำร้ายตนเองได้ จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบและช่วยเหลือเด็กทั้งสองคน
ด้านมารดาของเด็กหญิงทั้งสองคนชี้แจงว่าตนเองและสามีไม่ได้ทำร้ายลูกทั้งสองคน แต่ร่องรอยบาดแผลที่เห็นบนใบหน้าและตามตัวเกิดจากอุบัติเหตุทางรถจักรยานยนต์เมื่อหลายปีก่อน บาดแผลบางจุดเด็กหญิงอายุ 12 ขวบก็เป็นคนทำร้ายตัวเองเพื่อหาทางเอาตัวรอดหนีออกจากห้อง หรือที่ออกไปก่อกวนชาวบ้าน เนื่องจากลูกสาวคนโตมีอาการออทิสติกมีความคิดเกินผู้ใหญ่ ที่ผ่านมาหลายครั้งเคยโกหกเพื่อเอาตัวรอด ยืนยันที่ผ่านมาไม่เคยตบตีหรือทำร้ายลูก มีเพียงการลงโทษด้วยการตีมือและสั่งสอนไม่ให้ออกไปจากห้องหรือก่อกวนชาวบ้าน อีกทั้งยังยืนยันว่าสามีของตนเองก็ไม่ได้ทำร้ายลูกตามที่ชาวบ้านโจษจัน และไม่ได้หลบหนีไปไหนแต่ติดงานส่งของตั้งแต่ช่วงเช้า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตามตัวมาพบเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย
เมื่อเจ้าหน้าที่ พม.แจ้งว่าจำเป็นต้องพาเด็กหญิงทั้งสองคนไปดูแลพักฟื้นก่อนในเบื้องต้น แม่ของเด็กหญิงคนดังกล่าวก็ทรุดลงปล่อยโฮ ถามเจ้าหน้าที่เพียงว่าจะได้อยู่กับลูกอีกหรือไม่ เป็นห่วงลูก ที่ผ่านมาก็พยายามดูแลมาตลอด
ขณะที่นางสาวอังคณา ใจกิจสุวรรณ รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่าในเบื้องต้นทางกระทรวงจะนำตัวเด็กหญิงทั้งสองคนไปดูแลพักฟื้น พร้อมทั้งจะซักถามข้อมูลเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจากอะไร และลักษณะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเข้าข่ายว่าพ่อแม่ไม่มีความพร้อมหรือศักยภาพในการดูแลเลี้ยงลูกได้หรือไม่ หากเข้าข่ายก็จะดำเนินการตามขั้นตอน แต่หากพ่อแม่เด็กไม่ยอมก็จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเจรจาพูดคุยอีกระดับหนึ่ง
Advertisement