เมื่อเวลา 06.00 น.วันที่ 6 ก.ค.64 พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รองผบช.ก.(หน.ชุดที่ 2 ปราบปรามการโจรกรรมรถ และหน.ชุดส่วนปฏิบัติการศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพลมือปืนรับจ้างและผู้ร้ายสาคัญ สั่งการให้ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. จัดชุดปฏิบัติการ นำโดย พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัยรอง ผบก.ป. พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุลผกก.3บก.ป. พ.ต.ต.ณัฐดนัย สีแขไตร สว.กก.3 บก.ป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ กก.3.บก.ป.บก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด บก.สส.บช.ภ.4. ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถ ศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้างและผู้ร้ายสำคัญ เปิดปฏิบัติการ ” ทลายแก๊งรับจำนำรถร้อยเอ็ด” ตรวจค้นเป้าหมาย 5 จุด ใน อ.เมืองร้อยเอ็ด จับกุมนายวรวุฒิ หรือแบงค์ ทองศักดิ์ อายุ 35 ปี ชาว จ.ร้อยเอ็ด ตามหมายจับศาลจังหวัดร้อยเอ็ด ที่ 198/2564 ลงวันที่ 5 กรกฎาคม 2564 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินหรือกระทําการใดๆ อันมีลักษณะเป็นการอําพรางในการกู้ยืมเงิน อันเป็นการเรียก ดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกําหนด ตรวจยึดรถยนต์ 69 คัน จักรยานยนต์ 1 คัน ปืน 2 กระบอก เอกสารการกู้ยืมเงินและจำนำรถ สมุดบัญชีธนาคารจำนวนหนึ่ง ยาบ้า 48 เม็ด จับได้ที่ห้องพักในร้าน ไม่มีชื่อ ถนนวงแหวนรอบใน ต.ในเมือง อ.เมืองร้อยเอ็ด
พ.ต.อ.พรศักดิ์ เปิดเผยว่า เมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา กองปราบปรามได้รับการร้องเรียนผ่านเพจกองบังคับการปราบ ว่า มีผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด อาศัยช่วงประเทศไทยเกิดภาวะโรคระบาดโควิด 19 ซึ่งประชาชนประสบปัญหาการเงิน อย่างหนัก ปล่อยเงินกู้โหดนอกระบบ เอารัดเอาเปรียบ เรียกดอกเบี้ยโหด ด้วยการเปิดเฟซบุ๊ก “รับ จำนำรถร้อยเอ็ด” และ line:bm 6282 (https://www.facebook.com / Phakin.bm6282) ในลักษณะรับ จำนำ เอารถยนต์มาค้ำประกันเงินกู้ แล้วเรียกดอกเบี้ยโหด ทั้งยังมีพฤติการณ์ ไม่ให้ไถ่ถอนรถยนต์ที่นำมาค้าประกันอีกด้วย จนทำให้ประชาชนหลายคนในพื้นที่ร้อยเอ็ดและจังหวัดใกล้เคียงได้รับความเสียหาย
รอง ผบกป.กล่าวต่อว่า หลังทราบเรื่อง พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รองผบช.ก. ได้สั่งการให้กองปราบสืบสวนทลายเครือข่ายแก๊งเงินกู้โหด นี้โดยด่วน ชุดสืบสวนกก.3.บก.ป.ได้ลงพื้นที่ สืบสวนตรวจสอบจนทราบว่า มีผู้เสียหายหลายราย ถูกเพจเฟซบุ๊กข้างต้นหลอกให้กู้เงิน โดยให้เอารถยนต์มาค้าประกัน ในลักษณะเป็นการจำนำ โดยคิดดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อเดือนและไม่ยอมคืนรถที่นำมาค้ำประกันจริง โดยมีนายวราวุฒิ หรือแบ็งค์ เป็นนายทุน คอยสั่งการ ใช้บัญชีตัวเองรับดอกเบี้ย ส่วนนายธีรัศป์ชณล เวียงนนท์ ลูกน้องจะเป็นผู้คอยรับส่งรถที่ใช้ค้าประกันและไปเก็บรักษาไว้ ก่อนเอาเงินไปปล่อยกู้ให้ผู้เสียหาย
จากการตรวจค้นพบสถานที่กักเก็บรถยนต์ของกลาง 70 คัน ซุกซ่อนสถานที่ต่างๆ กว่า 5 จุด ซึ่งน่าจะเป็นรถยนต์ที่ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ในการหลอกให้เอารถมาค้าประกันเงินกู้หรือมาจำนำ ที่มีประชาชนหลายราย มาร้องทุกข์กับ สภ.เมืองร้อยเอ็ด ว่าถูกฉ้อโกงและเบียดบังเอารถยนต์ค้ำประกันไปขายในเพจเฟซบุ๊กอื่นๆ
ทั้งนี้มีรายงานว่า เมื่อเดือน มี.ค.63 ได้มี น.ส.รัชนี (ขอสงวนนามสกุล) หนึ่งในผู้เสียหาย ต้องการกู้ยืมเงิน จึงได้ตรวจสอบกับเพจเฟซบุ๊กต่างๆ จนพบเพจเฟซบุ๊ก “รับจำนำรถร้อยเอ็ด” หากต้องการกู้ยืมเงิน ต้องใช้รถยนต์มาจำนำ จึงได้ติดต่อขอจำนำรถกระบะ โตโยต้า วีโก้ กับนายธีรัศป์ชณล หรืออาร์ท ผ่านเพจเฟซบุ๊ก จำนวน 40,000 บาท นัดรับรถกันที่ ห้างเทสโก้โลตัส จ.ร้อยเอ็ด โดยคิดอัตราดอกเบี้ยไว้ 4,000 บาท/เดือน (ร้อยละ 10 ต่อเดือน) และมอบเงินให้ น.ส.รัชนี เพียง 36,000 บาทเท่านั้น ต่อมา น.ส.รัชนีต้องการไถ่ถอนรถคืน กลับไม่สามารถนำรถมาคืนได้ และบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด จากนั้นไม่นาน น.ส.รัชนี ได้พบว่ารถของตนได้ถูกประกาศขายที่เพจเฟซบุ๊กแล้วในราคา 155,000 บาท สูงกว่าราคาที่มาจำนำไว้ ทั้งนี้จากการสืบสวนทราบว่าผู้ที่คอยควบคุมสั่งการและเป็นนายทุนให้เงินในการรับจำนำรถ คือนายวรวุฒิ หรือแบงค์ และยังมีผู้เสียหายอีกหลายรายที่โดนหลอกลักษณะเดียวกัน บางรายให้จ่ายดอกเบี้ย แต่ก็ไม่ได้รถยนต์คืนแต่อย่างใด
เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ทำมาได้ 2 ปี แล้ว จนท.จึงนำตัวส่ง สภ.เมืองร้อยเอ็ด ดำเนินคดีต่อไป พร้อมขยายผลจับกุมนายธีรัศป์ชณล และผู้ร่วมขบวนการต่อไป
Advertisement