เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 30 เม.ย. พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีนางสรารัตน์ หรือ แอม รังสิวุฒาภรณ์ วางยาฆ่าชิงทรัพย์ น.ส.ศิริพร ขันวงษ์ หรือ ก้อย เท้าแชร์ อายุ 33 ปี ว่าสำหรับพยานบุคคลที่เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนกองปราบในวันนี้มีด้วยกันทั้งหมด 5 คน ประกอบด้วย 2 รายแรกคือ น.ส.จอย น.ส.นก เจ้าหน้าที่พยาบาล ซึ่งเป็นกลุ่มเพื่อนสนิทของ นางสรารัตน์ หรือ แอม ส่วนอีก 3 ราย คือ นายกอล์ฟ ลูกน้องคนสนิทของนายสุทธิศักดิ์ พูนขวัญ หรือ แด้ อายุ 35 ปี หนึ่งในเหยื่อที่เสียชีวิตในพื้นที่ จ.อุดรธานี พร้อมด้วย น.ส.ทราย แฟนสาวของนายกอล์ฟ และคนสุดท้ายคือ เจ้าของรถยนต์โตโยต้ายาริส ที่ น.ส.ศิริพร ขันวงษ์ หรือ ก้อย อายุ 33 ปี เหยื่อผู้เสียชีวิตในพื้นที่ จ.ราชบุรี ขับไปหา นางสรารัตน์ ก่อนเสียชีวิต
“คำให้การของพยานบุคคลทั้ง 5 ที่มาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนในวันนี้ ค่อนข้างเป็นประโยชน์กับรูปคดีอย่างมาก ทำให้พยานหลักฐานเกี่ยวกับพฤติกรรมแวดล้อมทางคดีค่อนข้างมีน้ำหนักน่าเชื่อถือ” รอง ผบก.ป. กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการสอบปากคำ น.ส.จอย และ น.ส.นก ในครั้งนี้ก็เพื่อสักถามรายละเอียดพฤติกรรมแวดล้อมของนางสรารัตน์บางประเด็น โดยเฉพาะประเด็นที่ นางสรารัตน์ เคยสอบถาม น.ส.นก เกี่ยวกับอาการป่วยโรคหัว หรือ อาการของผู้ที่หัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ของเหยื่อจำนวน 3-4 เคส ซึ่งจากการสอบปากคำยังทำให้ทราบข้อมูลทางคดีเพิ่มเติมอีกว่า นางสรารัตน์ เคยนำรูปงานศพของ น.ส.ผุสดี สามบุญมี หรือ ครูอ๊อด หนึ่งในเหยื่อผู้เสียชีวิตในพื้นที่ สภ.ดอนตูม จ.นครปฐม มาให้ดูก่อนทำทีบอยืมเงินจำนวน 5 หมื่นบาท จาก น.ส.นก อ้างว่าอยากช่วยเหลือผู้ตาย แต่เนื่องจากขณะนั้น น.ส.นก กำลังยุ่งกับธุระ จึงไม่ได้ให้ยืมเงิน ส่วนการสอบปากคำนายกอล์ฟ และ น.ส.ทราย แฟนสาว เป็นการสอบปากคำกรณีถุงดำใส่กระปุกสารไซยาไนด์ ส่วนเจ้าของรถยนต์โตโยต้ายาริส ที่ น.ส.ศิริพร ขันวงษ์ หรือ ก้อย เหยื่ออีกราย ใช้ขับไปหา นางสรารัตน์ ก่อนเสียชีวิต เป็นการสอบพฤติกรรมแวดล้อมประกอบสำนวนคดี