กองปราบตามรวบ “อิสมะแอ” เอเย่นต์ยานรกตัวพ่อ ค้าข้ามชาติ 4 ประเทศอาเซียน หลังพบกบดานบ้านเมียใหม่

           เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ต.หญิง กัญจิรา นรสาร สว.ฝอ.บก.ปปป. ปฏิบัติราชการ กก.2 บก.ป. นำกำลังจับกุม นายอิสมะแอ บินเงาะ หรือแอ  อายุ  43 ปี ชาว จ.นราธิวาส ตามหมายจับศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ จ.200/2565  ลงวันที่ 21 พ.ค.65 ข้อหา “สมคบกันเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด, ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในความครอบครอง,สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และ ฟอกเงิน”  และ หมายจับศาลจังหวัดสตูล ที่ จ.31 /2565 ลงวันที่ 7 ก.พ.65  ข้อหา “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1,สมคบกันเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด” ได้ที่ บริเวณร้านอาหารกระดิ่งทอง ถ.ดิเรกสาร ต.บ้านแก้ง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี

           สืบเนื่องจากนายอิสมะแอ ผู้ต้องหารายนี้ ถือเป็นตัวการสำคัญของขบวนการเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามประเทศ เชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ไทย มาเลเซีย ลาว พม่า หลายเครือข่าย ที่ลักลอบขนลำเลียงยาเสพติดจาก ลาว พม่า เข้าไทยลงสู่ภาคใต้ และมาเลเซีย รวมถึงยังมีความข้องกับกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ กลุ่มผู้มีอิทธิพลในการค้าน้ำมันเถื่อนและขนของหนีภาษี รวมทั้งมีการร่วมลงทุนในธุรกิจต่างๆ ที่เปิดขึ้นบังหน้าเพื่อฟอกเงินให้แก่เครือข่ายยาเสพติดต่างๆ นอกจากนี้จากการตรวจสอบประวัติของ นายอิสมะแอ พบว่าเมื่อปี 2543 เคยถูกจับกุม พร้อมของกลาง ยาบ้า 74,500 เม็ด ยาไอซ์ 1 กิโลกรัม เงินสด 1.3 ล้านบาท ก่อนได้รับการอภัยโทษออกมา แต่กลับไม่เข็ดหลาบ ยังคงมีพฤติการณ์พัวพันเกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติดเช่นเดิม โดยเมื่อปลายเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา นายอิสมะแอ ผู้ต้องหารายนี้ได้สั่งการให้ นายรุกมาน วาเงาะ และ นายเจ๊ะมูฮามะรูซี บินเจ๊ะอารง ขนลำเลียง จำนวน 500 กก. จากพื้นที่กรุงเทพมหานคร  ไปส่งยังปลายทาง อ.เกาะสะท้อน จ.นราธิวาส เพื่อนำไปส่งต่อให้กับ นายมัง บุคคล 2 สัญชาติ (ไทย-มาเลเซีย) แต่ระหว่างทาง นายรุกมาน และ นายเจ๊ะมูฮามะรูซี เกิดถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี จับกุมได้เสียก่อน รวมถึงยังให้การซัดทอดว่านายอิสมะแอ คือผู้บงการตัวสำคัญของเครือข่าย จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ พร้อมขยายผลยึดทรัพย์เครือข่ายดังกล่าวรวมกว่า 100 ล้านบาท กระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมทราบว่า ปัจจุบันนายอิสมะแอ ได้หนีมากบดานซ่อนตัวอยู่กับภรรยาใหม่ที่เพิ่งคบหากันได้ไม่นาน ในพื้นที่ จ.สระบุรี จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัวได้ดังกล่าว

           จากการสอบสวน นายอิสมะแอ ให้การรับสารภาพว่าลักลอบค้ายาเสพติดข้ามประเทศจริง นอกจากนี้จากการตรวจสอบยังพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดพื้นที่ต่างๆอีกหลายคดี เบื้องต้นจึงนำตัวส่ง สภ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป