(10 ธ.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ ศูนย์เอกซเรย์และเทคโนโลยีศุลกากร สำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ กรมศุลกากร นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร พร้อมด้วยนายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ รองอธิบดี รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี นายพงศ์เทพ บัวรัพย์ รองอธิบดี รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร พ.ต.อ.ณรัชต์พล เลิศรัชตะปภัสร์ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ นายถวัลย์ รอดจิตต์ ผู้อำนวยการกองสืบสวนและปราบปราม และหน่วย SITF โดย พ.ต.อ. จตุรภัทร์ ภิรมย์แก้ว รอง ผบก. ปส.1 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และเรือโทภูมิ แสงคำ ผู้อำนวยการทำเรือกรุงเทพ ได้ทำการแถลงผลการปฏิบัติงานของ กรมศุลกากร ร่วมกับ หน่วยงาน SITF ปิดกั้นเส้นทางลักลอบลำเลียงยาเสพติดส่งออก “ออสเตรเลีย” สามารถตรวจยึดยาเสพติดให้โทษประเภท1 (เฮโรอีน) น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 45 กิโลกรัม มูลค่า 1,350 ล้านบาท
โดยนายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า จากปัญหาการลักลอบส่งออกยาเสพติดที่ปรากฎในปัจจุบัน กรมศุลกากรในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้า-ส่งออกยาเสพติด อีกทั้งคำสั่งศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งซาติ ที่ 11/2564 แต่งตั้งอธิบดีกรมศุลกากรเป็นประธานอนุกรรมการ ทางกรมศุลกากรจึงได้เร่งรัดดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อสกัดกั้นการลักลอบเคลื่อนย้ายยาเสพติด
เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2565 สำนักงานศุลกากรทำเรือกรุงเทพ ร่วมกับกองสืบสวนและปราบปรามกรมศุลกากร พบสินค้าต้องสงสัยที่มีความเสี่ยงสูงในการลักลอบลำเลียงยาเสพติดไปยังต่างประเทศ โดยสำแดงชนิดสินค้าเป็นเครื่องผสมแป้งโด (DOUGH MIXER MACHINE WITH ELECTRIC) ส่งออกทางท่าเรือกรุงเทพ ประเทศไทย ปลายทางบริสเบน (BRISBANE) ประเทศออสเตรเสีย ซึ่งตรงกับเงื่อนไขความเสี่ยง (Local Profle) เบื้องต้น
จากผลการวิเคราะห์ภาพเอ็กซเรย์พบความผิดปติภายในสินค้า จึงได้ดำเนินการตรวจสอบทางกายภาพโดยละเอียด พบยาเสพดิดให้โทษ ประเกท 1 (เฮโรอีน) ในลักษณะซุกซ่อนภายในเครื่องผสมแป้งโด น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 45 กิโลกรัม มูลคำประมาณ 135 ล้านบาท หากส่งออกไปยังประเทศออสเตรเลีย จะมีมูลค่าในราคาขายสูงถึง 1,350 ล้านบาท จึงได้ร่วมกันกับหน่วย SITF โดสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ตรวจยึดพร้อมทั้งขยายผล
“สำหรับสถิติจับกุมยาเสพติต ตั้งแต่ 1 มกราคม – 10 ธันวาคม 2565 สามารถจับกุมได้ 154 ราย มูลค่า 3,950 ล้านบาท 4 อันดับแรก ได้แก่ 1.น้ำหนักรวมประมาณ 1,600,000 กรัม = 1,600 กิโลกรัม, 2.น้ำหนักรวมประมาณ 90,000 กรัม – 90 กิโลกรัม, 3.น้ำหนักรวมประมาณ 2,400,000 เม็ด และ 4.น้ำหนักรวมประมาณ 100,000 กรัม = 100 กิโลกรัม อย่างไรก็ตาม กรมศุลกากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมมือกันสกัดกั้นเครือข่ายลักลอบลำเลียงยาเสพติดข้ามชาติอย่างเข้มงวด เพื่อปกป้องสังคมและประเทศชาติให้พ้นภัยจากยาเสพติดทุกประเภท” อธิบดีกรมศุลฯ กล่าว
Advertisement